ถูกมองหน้าตะโกนให้ของลับถึงขั้นบานปลายยกพวกไล่ฟันกัน เจ็บทั้งสองฝ่าย รวม 4 คน เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทกันด้วยอาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยอุดมเดช 7 ซ้าย ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้า อพาร์ทเม้นท์ภายในซอยดังกล่าว พบ นายสมพงษ์ จันทร์มงคล อายุ 59 ปี มีแผลฉีกขาดเล็กน้อยที่ท้องและมือ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ จากการสอบถามทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกทั้งหมด 3 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว ในที่เกิดเหตุยังพบกองหยดเลือดกระจายเต็มพื้นถนนจากการสอบถาม นายสมพงษ์ (เสื้อดำ) ผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นพ่อของ นายต้อม บอกว่า ลูกชายตนมารับลูกทุกวัน ตอนนั้นคู่กรณีถือของอยู่ จังหวะลูกชายตนกลับรถเหมือนจะไปเฉี่ยวเขาแต่ไม่โดน เขาหันมามองหน้า ลูกชายตนโมโหเลยหันไปด่า และเกิดการโต้เถียงกัน ลูกชายตนได้ด่าถึงพ่อ กลุ่มคู่กรณี ได้ถามว่าทำไมต้องด่าถึงพ่อแม่ และได้กรูกันเข้าไปหาลูกชายตนคนเดียว ตอนนั้นตนอยู่ข้างใน เลยเข้าไปเอามีดออกมาเพื่อช่วยลูกชาย และเกิดการชุลมุน จากนั้นลูกชายตนขี่รถกลับไปเอามีดมา กลุ่มคู่กรณีก็ถือมีดกรูเข้าไปหาลูกชายตน ตนเลยเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบมีดออกมาอีกรอบหนึ่ง กลุ่มนั้นไล่ตีลูกตนมาจนถึงลาน สองคนไล่ตีลูกบอลเข้าไปในซอย แล้วคนแก่เอามีดมาไล่ฟันตน ตนเลยฟันกลับ ดีที่โดนตรงหน้าแบนไม่ได้ตรงสันคม
คู่กรณีกับ นายต้อม (เสื้อขาว) บอกว่า ตนเองกลับมาจากทำงานและกำลังจะขึ้นห้องพักตรงที่เกิดเหตุ พอจอดรถก็กำลังหิ้วขนของเดินขึ้นตึกระหว่างนั้นมีนายต้อม คู่กรณีขับรถจักรยานยนต์ผ่านแล้วเกือบจะเฉี่ยวชนกับตนเอง ตนเองจึงหันไปมองหน้า ทำให้ นายต้อม ไม่พอใจ จอดรถและตะโกนกลับมาว่ามองหน้าทำ….. อะไร ตนจึงถือไม้จะเดินเข้าไปถามว่าทำไมต้องให้ของลับ ฝ่ายคู่กรณีซึ่งมีบิดาอยู่แถวนั้น เพราะพักอยู่ตึกเดียวกัน ฝ่ายของคู่กรณีทั้งพ่อ นายต้อม และ นายต้อม คิดว่าตนเองจะไปรำร้ายหรือรุมลูกเขา โดยที่ฝ่ายของคู่กรณีมีการถือมีดติดมือมาด้วย จากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเพื่อนของ นายต้อม อีกประมาณ 5-6 คนถือมีดกันลงมาทุกคนไล่ฟันกลุ่มของพวกตนทำให้เกิดการตะลุมบอนกัน ฝ่ายตนมีตนเองและเพื่อนรวมถึงพ่อของเพื่อน ซึ่งพอหลังจากที่ชุลมุนกันพบว่าเพื่อนและพ่อของเพื่อนถูกฟันได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อนบ้าน บอกว่า ผู้ชายมารับลูกที่บ้านแล้วมาเจอคู่กรณี 3-4 คน เกิดการไล่กัน จากนั้นเขากลับบ้านและกลับมาพร้อมมีด และเกิดการตะรุมบอลกัน พ่อของผู้ชายที่โดนตีเข้าไปเอามีดมาฟันกัน ตอนนั้นตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่เจ็บทั้งสองฝ่ายนางสาวนุชตี ใจสองเมือง อายุ 38 ปี แฟนของหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ บอกว่า ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น แต่ตนเห็นคนฝั่งโน้นเขาวิ่งออกแล้วเขาถือมีดกลับมา แต่ทางฝั่งนี้ไม่มีมีดไม่มีอะไร ทางฝั่งโน้นเขาถือมีดมาจะไล่ฟัน ทางคนห้องฝั่งโน้นตึกชั้น 3 เขาก็กรูขึ้นไปเอามีดมามั่ง แล้วทางชุดพวกตน มีกันแค่ 4 คน มันก็ต้องไปเอาของมันมาเหมือนกัน มันก็ต้องรู้ตัวอยู่แล้วว่ามันต้องโดนอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่ามันไม่โดน มันก็เอามีมาเหมือนกัน
ถ้าถามว่าผิดมันก็ผิดทั้งคู่ แต่คนเรามันต้องป้องกันตัว ถ้าไม่ป้องกันตัวเราก็ตาย ส่วนสาเหตุตนไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่เท่าที่ตนได้ข่าวมา คือ เขาทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้ต้องนานแล้ว ส่วนวันนี้ตนไม่รู้ เพราะตอนนั้นตนเลี้ยงลูกอยู่บนห้อง เลยไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกัน ฝั่งรถกระบะเจ็บ 1 คน เจ็บเยอะ หน้าแหก และก็ข้างหลัง ลุงไม่ได้มีมีดมีอะไรเลย มีแต่ตัว คนเจ็บเป็นลูกน้องเจ้าของตึกที่นี้ แต่มูลเหตุในวันนี้ตนไม่ทราบ แต่มีการเขม่นกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วนางทิตินันท์ สัจจาพันธ์ อายุ 48 ปี (ผู้ช่วยหมู่2) บอกว่า จากข้อมูลที่ตนได้มา เขาไม่ถูกกันอยู่แล้ว มีปัญหากันบ่อย วันนี้เรื่องเกิดจาก ฝ่ายหนึ่งกลับรถแล้วเกือบจะเฉี่ยว เกิดการมองหน้าและด่ากัน ตนไม่แน่ใจว่าเขาจอดรถกันยังไง จากนั้นกลุ่ม 4 คนวิ่งไล่อีกฝั่ง และไปชุลมุนกัน ตนไม่เห็นเหตุการณ์ ได้แต่ถามข้อมูลจากหลานของคนเจ็บที่นั่งไปบนรถกู้ภัยเล่าให้ฟัง เบื้องต้นตำรวจจะได้เข้าสอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายและเชิญพยานที่เห็นเหตุการณ์เข้าให้ปากคำเพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ