โฆษกมหาดไทยแจงกรณีที่ประชุมพิจารณา พ.ร.บ.งบ 67 ตั้งข้อสังเกตรายได้ อปท. ยังไม่ถึงเป้าร้อยละ 35 ระบุรัฐบาลกระจายทรัพยากรตามภารกิจ ความจำเป็นของพื้นที่ ย้ำมีแผนพัฒนาประสิทธิภาพจัดเก็บรายได้ชัดเจน

โฆษกมหาดไทยแจงกรณีที่ประชุมพิจารณา พ.ร.บ.งบ 67 ตั้งข้อสังเกตรายได้ อปท. ยังไม่ถึงเป้าร้อยละ 35 ระบุรัฐบาลกระจายทรัพยากรตามภารกิจ ความจำเป็นของพื้นที่ ย้ำมีแผนพัฒนาประสิทธิภาพจัดเก็บรายได้ชัดเจน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่ 1 ในวันที่ 3 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน หลายท่านได้อภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับรายได้ งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยเฉพาะในประเด็นสัดส่วนรายได้ของ อปท. ที่ตามงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ได้รับการจัดสรร 810,031.7565 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29.06 ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาล ยังไม่ถึงถึงร้อยละ 35 ตามที่ พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฉบับที่ 2 พ.ศ. 2549 กำหนดไว้เป็นเป้าหมาย

เกี่ยวกับประเด็นนี้ แม้สัดส่วนรายได้ของ อปท. ยังไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่การดำเนินการจัดสรรงบประมาณต่างๆ รัฐบาลได้มีการคำนึงถึงความเท่าเทียมและเป็นธรรมในการกระจายทรัพยากรงบประมาณไปยังภาคส่วนต่างๆ ของประเทศภายใต้งบประมาณที่จำกัด ซึ่งในจำนวนนี้ก็พิจารณาถึงสัดส่วนการอุดหนุนให้ อปท. ที่ได้พิจารณาตามบริบทข้อเท็จจริงแต่ละพื้นที่ด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานที่กำกับ อปท. ทั่วประเทศ ได้มีแผนพัฒนารายได้ อปท. ที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มรายได้ อปท. โดยคำนึงถึงระยะเวลาที่เหมาะสมกับการพัฒนาและเป็นไปตามภารกิจที่ถ่ายโอนให้ อปท. ประกอบด้วยการผลักดันผ่านแนวทางต่างๆ ดังนี้ การจัดทำร่าง พ.ร.บ.รายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ….เพื่อปฏิรูปโครงสร้างรายได้ที่จะมาจาก 4 รายได้ 4 ประเภท ได้แก่ ภาษีท้องถิ่น, ภาษีที่ใช้ฐานร่วมระหว่างรัฐกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ภาษีที่รัฐจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ เงินอุดหนุนจากรัฐ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะทำให้ อปท.ยืนบนฐานรายได้จัดเก็บเองและมีอิสระมากขึ้น

พร้อมกันนี้ ได้มีการพัฒนาระบบให้มีการนำเทคโนโลยี สารสนเทศมาใช้ในกระบวนการจัดเก็บภาษี เพื่อให้สามารถตรวจสอบการยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีได้อย่าง รวดเร็วและแม่นยำ ใช้ระบบบริหารความเสี่ยงต่างๆ ติดตามการจัดเก็บภาษีของธุรกิจที่มีศักยภาพ ให้บริการรับชำระภาษีแบบ One Stop Service

นอกจากนี้ การที่ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้แล้วโดยได้ยกเลิกภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่โดยใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทน กฎหมายนี้จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บรายได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต รวมทั้ง พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 กำหนดกลไกให้ อปท. สามารถจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเสนอตรงไปสำนักงบประมาณได้โดยตรง ตามความจำเป็นของท้องถิ่นและพื้นที่และจะได้รับเงินอุดหนุนที่เพิ่มขึ้นด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีการอภิปรายในประเด็นอื่น อาทิ การถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต. ไปยัง อปท. ได้ประสบปัญหาบุคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์ไม่เพียงพอ กระทรวงมหาดไทยไม่ได้นิ่งนอนใจต่อประเด็นนี้ โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีการประสานงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาในช่วงการถ่ายโอนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการแก่ประชาชน

โดยในส่วนของการแก้ไขปัญหาเรื่องบุคลากร ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน อปท. สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้โดยจ้างเหมาบุคลากรทางด้าน สาธารณสุข เช่น แพทย์ พยาบาล บุคลากรด้านสาธารณสุข ที่เกษียณอายุราชการ หรือที่ปฏิบัติงานในเอกชนมาให้บริการประชาชนไปพลางก่อนได้ แต่เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ ร่วมกับสำนักงบประมาณในการจัดทำแนวทางแผนการสรรหาบุคลากรทดแทนตามมติที่ประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะได้และซักซ้อมความเข้าใจให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตามแผนดังกล่าวต่อไป

ทางด้านอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์นั้น อปท. ที่รับการถ่ายโอนภารกิจหลายแห่ง ได้มีการจัดซื้อ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ได้ เช่น รถทันตกรรมเคลื่อนที่ รถเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ เครื่องตรวจตาในผู้ป่วยเบาหวาน ติดตั้งระบบการแพทย์ทางไกล Telemedicine ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับประชาชนในการได้รับบริการที่ทันสมัย ทั่วถึงและเท่าเทียม และยังเป็นการแก้ไขปัญหาบุคลากรที่ขาดแคลนอีกทางหนึ่งด้วย
#อี๊ดกระแสข่าว รายงาน

โฆษกกระทรวงมหาดไทย
วันที่ 4 ม.ค. 67

Related posts