ณ วัดขวางชัยภูมิ หมู่ที่ 1 ตำบลคอรุม อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์พระครูพิลาสธรรมสาร เจ้าคณะตำบลคอรุม เจ้าอาวาสวัดขวางชัยภูมิ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการประกอบพิธียกช่อฟ้าหน้าบันถวายรอยพระพุทธบาทจำลองพญานาคมุจลินท์
โดยมีนายพระอาจารย์สุทิน ธมฺมธีโร สำนักสงฆ์ปรกเจริญธรรม ตำบล บางสวน อำเภอ บางคล้า ฉะเชิงเทรา นั่งปรกอธิฐานจิตประกอบพิธี นายสุรศักดิ์ วงศ์ตั้ง นายอำเภอพิชัยจ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย จุดธูปเทียนเครื่องบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธ์ และได้มึการประกอบ พิธีได้เริ่มตั้งแต่จากพราหมณ์ประกอบพิธีถวายเครื่องบวงสรวงยกช่อฟ้าบันถวายรอยพระพุทธบาทจำลองพยานาคมุจลินทร์ขอโชคลาภขอขมากรรมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น พระครูพิลาสธรรมสารเจ้าคณะตำบลคอรุมเจ้าอาวาสวัดขวางชัยภูมิได้โปรยข้าวตอกดอกไม้พร้อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ในการประกอบพิธีบวงสรวงในครั้งนี้
หลังจากเสร็จพิธีบวงสรวงและยกช่อฟ้า ท่านพระครูพิลาสธรรมสาร ได้เมตตาเล่าประวัติความเป็นมาของวัดขวางชัยภูมิ ประวัติหลวงพ่อพระพุทธพิไชยนาคศิลามณี ประวัติอุโบสถมหาอุตม์300ปีพร้อมมอบรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชคู่พยาพิชัยดาบหักให้กับพ.ต.อ.พงสวัสดิ์ ไชยบาล รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดเชียงรายและให้พรกับคณะที่มาณ วัดขวางชัยภูมิ หมู่ที่ 1 ตำบลคอรุม อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์พระครูพิลาสธรรมสาร เจ้าคณะตำบลคอรุม เจ้าอาวาสวัดขวางชัยภูมิ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการประกอบพิธียกช่อฟ้าหน้าบันถวายรอยพระพุทธบาทจำลองพญานาคมุจลินท์
โดยมีนายพระอาจารย์สุทิน ธมฺมธีโร สำนักสงฆ์ปรกเจริญธรรม ตำบล บางสวน อำเภอ บางคล้า ฉะเชิงเทรา นั่งปรกอธิฐานจิตประกอบพิธี นายสุรศักดิ์ วงศ์ตั้ง นายอำเภอพิชัยจ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดเชียงราย จุดธูปเทียนเครื่องบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธ์ และได้มึการประกอบ พิธีได้เริ่มตั้งแต่จากพราหมณ์ประกอบพิธีถวายเครื่องบวงสรวงยกช่อฟ้าบันถวายรอยพระพุทธบาทจำลองพยานาคมุจลินทร์ขอโชคลาภขอขมากรรมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น พระครูพิลาสธรรมสารเจ้าคณะตำบลคอรุมเจ้าอาวาสวัดขวางชัยภูมิได้โปรยข้าวตอกดอกไม้พร้อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ในการประกอบพิธีบวงสรวงในครั้งนี้
หลังจากเสร็จพิธีบวงสรวงและยกช่อฟ้า ท่านพระครูพิลาสธรรมสาร ได้เมตตาเล่าประวัติความเป็นมาของวัดขวางชัยภูมิ ประวัติหลวงพ่อพระพุทธพิไชยนาคศิลามณี ประวัติอุโบสถมหาอุตม์300ปีพร้อมมอบรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชคู่พยาพิชัยดาบหักให้กับพ.ต.อ.พงสวัสดิ์ ไชยบาล รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดเชียงรายและให้พรกับคณะที่มา
มุจลินท์ เป็นพญานาคซึ่งปรากฏในพุทธประวัติและปรากฏในพระพุทธรูป ปางนาคปรก โดยมุจลินท์นาคราชเป็นผู้แผ่พังพานป้องพระสมณโคดมเมื่อเกิดพายุฝนเป็นเวลาเจ็ดวันขณะเสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ที่ 6 หลังการตรัสรู้ที่ใต้ต้นมุจลินท์หรือต้นจิก
ในสัปดาห์ที่ 6 หลังการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิยังร่มไม้จิก อันมีนามว่า”มุจลินท์”อันตั้งอยู่ในทิศบูรพาหรือทิศอาคเนย์ แห่งไม้มหาโพธิ์ เสวยวิมุตติสุขอยู่ ณ ที่นั้นอีก 7 วันในกาลนั้นฝนตกพรำตลอด 7วัน พญานาคมีนามว่า”มุจลินท์” ซึ่งมีอานุภาพมาก พำนักอยู่ที่สระโบกขรณี ใกล้ต้นมุจลินท์นั้น มีความเลื่อมใสในพระศิริวิลาส พร้อมด้วยพระรัศมีโอภาสอันงามล่วงล้ำเทพยดาทั้งหลาย จึงเข้าไปใกล้แล้วขดเข้าซึ่งขนดกาย แวดวงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ 7รอบ และแผ่พังพานอันใหญ่ ป้องปกเบื้องบนพระเศียร มิให้ลมและฝนถูกต้องพระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า
ครั้งล่วง 7 วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมาณพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า”ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง”
มุจลินท์ เป็นพญานาคซึ่งปรากฏในพุทธประวัติและปรากฏในพระพุทธรูป ปางนาคปรก โดยมุจลินท์นาคราชเป็นผู้แผ่พังพานป้องพระสมณโคดมเมื่อเกิดพายุฝนเป็นเวลาเจ็ดวันขณะเสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ที่ 6 หลังการตรัสรู้ที่ใต้ต้นมุจลินท์หรือต้นจิก
ในสัปดาห์ที่ 6 หลังการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิยังร่มไม้จิก อันมีนามว่า”มุจลินท์”อันตั้งอยู่ในทิศบูรพาหรือทิศอาคเนย์ แห่งไม้มหาโพธิ์ เสวยวิมุตติสุขอยู่ ณ ที่นั้นอีก 7 วันในกาลนั้นฝนตกพรำตลอด 7วัน พญานาคมีนามว่า”มุจลินท์” ซึ่งมีอานุภาพมาก พำนักอยู่ที่สระโบกขรณี ใกล้ต้นมุจลินท์นั้น มีความเลื่อมใสในพระศิริวิลาส พร้อมด้วยพระรัศมีโอภาสอันงามล่วงล้ำเทพยดาทั้งหลาย จึงเข้าไปใกล้แล้วขดเข้าซึ่งขนดกาย แวดวงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ 7รอบ และแผ่พังพานอันใหญ่ ป้องปกเบื้องบนพระเศียร มิให้ลมและฝนถูกต้องพระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า
ครั้งล่วง 7 วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมาณพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า”ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง”