!สกุ๊ปพิเศษ!“ฝายสร้างชีวิต” คน “ น้ำ ” สร้างรอยยิ้มชุมชน

!!สกู๊ปพิเศษ !!“ฝายสร้างชีวิต” คน “ น้ำ ” สร้างรอยยิ้มชุมชน


กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 20 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 21 ให้ความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยได้ติดตามผลความสำเร็จของการน้อมนำศาสตร์พระราชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาว บ้านผามูบ ตำบลแม่พ!ล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดทำเป็นวีดีทัศน์นำเสนอบอกเล่าเรื่องราว ต่อไปนี้


ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่พอจะคาดการณ์ได้ว่าในอนาคตอาจจะต้องเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่อย่างแน่นอน ผู้นำชุมชน ประชาชนตำบลแม่พูล หน่วยงานด้านการอนุรักษ์และรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม จึงเกิดความตื่นตัวและต้องการที่จะแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำให้กับชุมชน ใน ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ พบว่า การทำฝายชะลอน้ำเป็นวิธีที่จะช่วยเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งได้ อีกทั้งกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำยังสามารถทำ ให้คนในชุมชมเกิดความร่วมแรงใจ จึงเป็นเรื่องที่สามารถทำ ได้โดยง่ายและไม่จำเป็นต้องลงทุนมากเกิน ทั้งยังช่วย เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนป่าตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

 

“ต้นน้ำ” เป็นป่าไม้ จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จด้วย “ฝายชะลอน้ำ” จากจุดเริ่มต้นของการสร้างฝายเล็ก ๆ จนเกิดฝายหลายตัวในพื้นที่ตำบลแม่พูล ที่เกิดขึ้นจากความร่วมใจของทุกคน”

เพราะ “น้ำ” คือสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับการดำรงชีพของมนุษย์

ดังจะเห็นได้จากความตอนหนึ่งใน พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เรื่องทรัพยากรน้ำ ที่พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2529 ณ สวนจิตรลดา

“หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำ คนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้า คนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้”

สอดคล้องกับคำพูดของ นายฤทธิชัย ขำคง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านผามูบ ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ก่อนอื่นแนะนำตัวก่อนนะครับ ตัวผมเอง เป็นทั้งผู้ใหญ่บ้าน และก็เป็นอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ เป็นอาสาสมัครโครงการหลายเครือข่ายภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่ว่าจะเครือข่ายป้องกันภัยพิบัติภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ และได้ทำงานร่วมร่วมกับหลายหน่วยงาน องค์กรที่เข้ามาช่วยบูรณาการฟื้นฟู รวมถึงช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตำบลแม่พูล โดยเฉพาะหมู่ที่ 7 บ้านผามูบ ตำบลแม่พูล ซึ่งบริบทบทของตำบลแม่พูล พื้นที่ตำบลแม่พูล 80% เป็นพื้นที่เขา พื้นที่ราบจะอยู่โซนล่าง จะมีน้อย เป็นบ้านพัก เป็นบ้านของประชาชน ข้างบนส่วนใหญ่บริบทก็คือ พื้นที่เป็นที่เขาเกือบ 80% พื้นที่ตำบลแม่พูล ไม่สามารถสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ได้ ไม่สามารถทำแก้มลิงได้ เราก็ต้องจึงน้อมนำพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 คือ การทำฝาย เป็นการทำฝายแบบขั้นบันได ตั้งแต่ฝายตัวเล็ก ตัวน้อย ที่อยู่ตามตีนห้วยตีน สวนของชาวบ้าน รวมมาถึงฝายขนาดใหญ่ที่กั้นบริเวณลำน้ำลำคลองแม่พร่อง ตำบลแม่พูล จะมีลำคลองใหญ่ๆ อยู่ 2 แห่ง คือ ลำคลองแม่พร่อง กับ ลำห้วยแม่พูล น้ำที่นี่เป็นน้ำจากธรรมชาติ จะมาเร็วไปเร็ว เพราะฉะนั้นการที่เราจะสามารถใช้เป็นผลประโยชน์ในช่วงหน้าฝนได้ ก็คือ การทำฝายแบบขั้นบันได เพื่อกักเก็บน้ำเป็นช่วงๆ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ ตามศาสตร์พระราชา ของ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ให้ น้ำ อยู่กับ ป่า และ ประชาชนอยู่กับป่า ได้อย่างมั่นคงและถาวร ให้น้ำอยู่กับธรรมชาติ ในหนึ่งปีชาวตำบลแม่พูล จะได้น้ำแค่ 3 เดือน ใน ช่วงเดือนพฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม หลังจาก 3 เดือนแล้ว ก็จะเข้าหน้าแล้ง เพราะว่าโดยบริบทแล้วพื้นที่ตำบลแม่พูล ฝนจะตกลงมาน้อย ฉะนั้นต้องใช้แนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน เข้ามาช่วยฟื้นฟูสภาพสภาพทางภูมิศาสตร์ การทำสวนของเกษตรกรในพื้นที่ ตำบลแม่พูล ถือเป็นอาชีพหลักส่วนใหญ่ กว่า 90% จะเป็นการทำสวนผสมระหว่างทุเรียนกับลองกอง เพราะฉะนั้นแหล่งน้ำที่เกษตรกร ชาวสวนใช้ส่วนมากจะเป็นแหล่งน้ำจากธรรมชาติ ไม่ใช่สามารถที่จะเอาแหล่งน้ำน้ำดิบจากชลประทาน หรือว่าจากน้ำบาดาล ใช้ได้ พราะเนื่องจากเป็นพื้นที่สูง สิ่งที่เราทำได้คือ การทำฝายเป็นช่วงๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหน้าดิน และเป็นแนวป้องกันไฟไปในตัว ศาสตร์ของพระองค์ท่าน จึงสามารถช่วยทำให้คนตำบลแม่พูล สามารถอยู่กับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังทำให้ระบบเศรษฐกิจของตำบลห้วยพูล ดีกว่าที่อื่น เพราะว่าเราใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน มาปรับใช้ในวิธีการดำเนินชีวิตของเรา คนตำบลแม่พูล อยู่อย่างพอเพียงและอยู่กับธรรมชาติ อย่างมั่นคงและถาวร

เมื่อมีน้ำ ก็ต่อยอดด้วยการสร้าง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทำการเกษตร การสร้างฝาย ไม่ใช่เพียงช่วยรักษาแค่สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ชุมชนเกิดการพัฒนาสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อย่างแท้จริง

หากความสำเร็จเปรียบได้เหมือนสายน้ำ ก็ย่อมมีจุดเริ่มต้นที่เป็นรากฐานให้กับความสำเร็จจุดต่อ ๆ ไป

กล่าวว่า “การเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้ทุกคนมีจิตสำนึกในการดูแลบ้านเกิดและรักทรัพยากร สิ่งที่เราได้กลับมาคือทรัพยกรที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้การทำมาหากิน การประกอบอาชีพเลี้ยงตนเอง ครอบครัว จากเกษตรกรรม บนความพอเพียง ไม่มีวันหมด เป็นชีวิตที่ยั่งยืนต่อไป”

ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นส่งผลให้ชุมชน ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เกิดการพัฒนาสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีผลผลิตเพิ่ม มีรายได้สูงขึ้น เกิดความเข้มแข็ง และพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจขยายผลสู่เยาวชนคนรุ่นหลังและจิตอาสาให้สืบสานแนวปฏิบัติบริหารจัดการน้ำให้ยั่งยืนต่อไป

 

Related posts