ลำปาง-อยู่ยากขึ้นทุกวัน กลางวันแท้ขโมยประตูเหล็กดัดหน้าบ้าน 4 หลังรวด คาดเป็นฝีมือซาเล้งเก็บของเก่าขาย
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2566 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชุมชนสันติภาพ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ว่า มีบ้านชาวบ้านถูกขโมย ประตูเหล็กหน้าบ้านจำนวนหลายหลัง คาดเป็นหัวขโมยจากที่อื่นฉวยโอกาสขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ออกไปทำงานในช่วงกลางวันหรือเดินทางไปต่างจังหวัด ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบชุมชนดังกล่าวริมถนนวชิราวุธดำเนินสายลำปาง-เด่นชัย ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง เขตเทศบาลเมืองเขลางค์นคร พบกับนายเลิศศักดิ์ ทองจันทร์ อายุ 72 ปี ประธานชุมชนสันติภาพ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยตนเองเพิ่งทราบข่าวเมื่อวานนี้ โดยปกติที่ชุมชนไม่เคยมีขโมยหรือโจรกรรม เพราะผู้ที่อาศัยอยู่ กลางวันก็ไปทำงาน ตอนเย็นก็กลับมาพักผ่อน ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ในชุมชนมีประมาณ 200 หลังคา ประชากรประมาณ 600 คน ส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุและวัยทำงาน
จากการตรวจสอบทราบว่า บ้านที่ถูกขโมยประตูเหล็กหน้าบ้าน อยู่ตรงถนนสาย 3 ทางเข้าเป็นซอยตรงข้ามซอย 1/1 เป็นอาคารทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น จำนวน 5 ห้อง ขนาดหน้ากว้าง 4 เมตร ตั้งแต่เลขที่ 307/195 -199 พบว่าบริเวณประตูเหล็กหน้าบ้านหายไปหมดทั้’งหมด 4 หลัง เหลือเพียงหลังสุดท้ายเลขที่ 307/199 ที่ประตูหน้าบ้านไม่ถูกขโมย โดยบ้านเลขที่ 307/197 เจ้าของบ้านนำไม้ไผ่มาทำประตูกั้นไว้แทน และหลังติดกันพบร่องรอยว่ามีการขโมยประตูเหล็กไปไม่นาน โดยเป็นประตูเหล็กดัด 2 ข้าง ๆ ละ 2 เมตร สูงประมาณ 1.50 เมตร รวม 4 เมตร โดยคาดว่าคนที่มาขโมยน่าจะเป็นพวกขายของเก่า ที่ขี่รถซาเล้งเข้ามาในหมู่บ้านในช่วงเวลาประมาณ 13.00-15.00
น.ที่เจ้าบ้านออกไปงานไม่อยู่บ้าน ยกประตูใส่รถซาเล้งไปขายตามร้านขายของเก่า ซึ่งได้แจ้งประสานไปยัง ตร.สภ.เขลางค์นคร เข้ามาตรวจสอบแล้ว แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ
นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า พวกขโมยใจกล้ามาก ขนาดกลางวัน ยังกล้าก่อเหตุอีกหน่อยคงจะงัดแงะเข้าไปขโมยของภายในบ้านได้ ขณะนี้กำลังตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่ทางเข้า-ออกหมู่บ้านริมถนนใหญ่ของกรมทางหลวง เนื่องจากหมู่บ้านยังไม่มีกล้องวงจรปิด บ้านที่ถูกขโมยประตูเหล็ก อยู่ด้านหลังซอย แต่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ปิดบ้านทิ้งไว้ บางหลังก็ไปธุระต่างจังหวัด ทางชุมชนมีรายชื่อเจ้าของบ้าน ที่อยู่ แต่ไม่มีเบอร์โทร.ติดต่อได้ จึงได้ประกาศให้ชาวบ้านถ้าใครรู้จักหรือเป็นญาติกัน ให้ติดต่อมาที่ชุมชนหรือแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
“หลังเกิดเหตุดังกล่าวก็ได้มีการประชุมคณะกรรมการชุมชนสันติภาพ และประกาศให้ชาวบ้านทราบให้ระมัดระวังสิ่งของมีค่าเวลาออกจากบ้านไปทำงานหรือไปธุระอย่างเก็บไว้ในบ้านให้นำติดตัวไปด้วย หรือฝากบ้านกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาสังเกตรถที่เข้า-ออกในหมู่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก”.
วินัย/ลำปาง รายงาน