วันพุธที่ 31 สค.65 เวลา13:30น. เหยื่อหญิงไทย 2 รายที่ถูกชาวจีน ประเทศฟิลิปินส์บังคับให้หลอกคนไทยลงทุนบิดคอย ปฏิเสธไม่ยอมทำงาน ถูกทำร้ายสาหัส ไฟฟ้าช็อต ใช้เข็มขัดกับสายไฟฟาดตามลำตัว ใช้เก้าอี้ทุบจนตนสลบ ก่อนจะจับศีรษะกดน้ำเพื่อให้ฟื้น มีบาดแผลเต็มตัวเข้าขอบคุณ”ปวีณา” และกระทรวงต่างประเทศที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนอีก 3 คนพ้นขุมนรก หลังปวีณาพาเหยื่อเข้าพบอธิบดีกรมการกงสุลและผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศเมื่อวันที่ 30 ส ค. 65 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กกละสตรี น.ส.เอ อายุ 32 ปี และ น.ส.บี อายุ 33 ปี (นามสมมุติ) 2แรงงานไทยที่ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ เดินทางมาให้ข้อมูล พร้อมกับขอให้นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ช่วยเหลือแรงงานไทยอีก 5 คนซึ่งขณะนี้ถูกกักขังตัวอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์
โดยทั้ง 2 คน ให้ข้อมูลว่า ถูกนายหน้าคนไทย ที่เปิดเฟซบุ๊กอ้างว่ามีงานแอดมินที่ประเทศฟิลิปปินส์ งานดี เงินเดือนสูง2-30,000 บาท แต่เมื่อเดินไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานเป็นแอดมินสร้างโปรไฟล์เฟซบุ๊ก และไอจีหลอกลวงคนไทยลงทุนบิทคอย เมื่อทำยอดไม่ได้จะถูกทำร้ายร่างกาย และใช้ไฟฟ้าช๊อต หากใครต้องการกลับประเทศไทยจะต้องจ่ายเงินให้กับนายจ้างคนจีน คนละ100,000บาท เป็นค่าไถ่ตัว 1 ใน 2 บอกกับนางปวีณาว่า เธอ ถูกคนจีน 2 คนทำร้ายร่างกาย โดยการเตะเสยหน้า ใช้เข็มขัดกับสายไฟฟาดตามลำตัว ใช้เก้าอี้ทุบจนตนสลบ ก่อนจะจับศีรษะกดน้ำเพื่อให้ฟื้น จากนั้นจึงทำการซ้อมต่อ อีกทั้งให้อดข้าวอดน้ำ ที่หนักที่สุดคือ ใช้ไฟฟ้าช๊อต พวกเธอ จึงจ้องให้ญาติที่อยู่เมืองไทยหาเงิน 200,000 ไถ่ตัวกลับประเทศไทยซึ่งขณะนี้ มีแรงงานไทยอีก 5 คนที่ยังอยู่ถูกกักขังอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์
วานนี้ วันที่ 30 ส.ค.65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ประชุมร่วมกับ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนายนฤชัย นินนาท ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศโดยเหยื่อทั้ง 2 รายได้เข้าให้ข้อมูลในเบื้องต้นโดยเฉพาะเรื่องการบังคับ กักขัง และทำร้ายร่างกาย ซึ่งอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์
นางปวีณา เปิดเผยว่า การเข้าหารือกับอธิบดีกรมการกงสุลครั้งนี้ เพื่อแนวทางช่วยเหลือคนไทยอีกจำนวนมากที่ถูกหลอกไปค้าประเวณี และถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศให้ได้กลับบ้านโดยปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันนี้สถานการณ์โควิดได้ลดลงจึงได้มีการเปิดประเทศต่างๆ ทำให้สถิติที่มูลนิธิปวีณาฯ รับร้องทุกข์ คนไทยถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศ ครึ่งปีแรก 163 ราย จึงต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อโดยเร็ว
.นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศมีมาตราการในการดูแลคนไทยในต่างแดนอยู่แล้ว และได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนให้ระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อขบวนการหลอกลวงคนไทยไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพใช้ช่องทางโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะเฟซบุ๊กและแอพพลิเคชันไลน์ แต่ก็ยังมีคนหลงเชื่อเดินทางไปอยู่ ซึ่งการช่วยเหลืออาจจะมีข้อจำกัดไม่สามารถดำเนินการได้ในเวลาอันรวดเร็ว และขอขอบคุณมูลนิธิปวีณาฯ ที่ได้ช่วยประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ช่วยเตือนคนไทยไม่ให้ถูกหลอก
ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อในต่างประเทศร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ อย่างดียิ่งเสมอมา จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ มีผู้ที่ร้องขอความช่วยเหลือถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. – 29 ส.ค.65 มีจำนวนถึง 162 ราย โดยเป็นเรื่องค้าประเวณีที่ดูไบ 48 ราย รองลงมาเป็นประเทศบาห์เรน 23 ราย โอมาน 14 ราย มาเลเซีย 4 ราย และอินเดีย 3 ราย ขณะที่มีผู้ถูกหลอกไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์และหลอกลงทุนที่ประเทศกัมพูชา 61 ราย และฟิลิปปินส์ 7 ราย มูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ด้วยดีตลอดมา แต่เป็นที่ทราบกันว่าปัจจุบันขบวนการหลอกลวงเหยื่อใช้อุบายหลากหลายทั้งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้คนหลงเชื่อได้ง่าย จำเป็นที่จะต้องบูรณาการร่วมกันระหว่างมูลนิธิปวีณาฯ กับหน่วยราชการ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้าถึงความจริงและไม่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อกับขบวนการค้ามนุษย์ ค้าประเวณี หรือคอลเซ็นเตอร์
.
ดังนั้นมูลนิธิปวีณาฯ จะจับมือกับกระทรวงการต่างประเทศ ทำงานเชิงรุกเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้รวดเร็ว โดยในกรณีเคสเร่งด่วน นางปวีณา จะประสานตรงกับ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นายนฤชัย นินนาท ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และประสานตรงไปยังสถานทูตประเทศนั้นๆ โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ จะทำงานติดตามใกล้ชิด เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน และในบางพื้นที่ที่สถานทูตเข้าไม่ถึงในบางประเทศซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษก็จะประสานทหาร ตำรวจ ในการช่วยเหลือให้เป็นรูปธรรม
มูลนิธิปวีณาฯ ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อสังคมออนไลน์ ให้ไปทำงานที่ต่างประเทศ หากมีความประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศให้สอบถามที่แรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และให้ตรวจสอบข้อมูลทางเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ โดยมูลนิธิปวีณาฯ ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ โดยสอบถามได้ที่ เบอร์โทร 1134 ในเวลาทำการ และเบอร์โทร 098 478 8991, 081 890 1355, 062 560 1636, 081 814 0244 หรือแจ้งทางเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ตลอด 24 ชั่วโมง
