ศรีสะเกษ/ อำเภอขุนหาญรวบนักค้ายาเสพติดแนวชายแดนไทยกัมพูชา ตามยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 นายปวิช รัตวาลย์ นายอำเภอขุนหาญ พันเอก เอนก พรหมทา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ อยู่พะเนียด รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.นพดล ทุนทวีศีลศักดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรขุนหาญ ชุดสืบสวน สภ.ขุนหาญ นำโดย พ.ต.ท.ชยาพล นามสุวรรณ สารวัตรสืบสวน สภ.ขุนหาญ พร้อมทั้งสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอขุนหาญที่ 6 ได้สนธิกำลังโดยให้ชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่ร่วมกันปฏิบัติการ (Quick Win) ตามนโยบายจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลและตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขยายผลกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในเขตพื้นที่อำเภอขุนหาญ
โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีลูกจ้าง อบต.แห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอขุนหาญ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและชอบสะสมอาวุธปืน จึงได้บูรณาการด้านการข่าวทั้ง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จนสืบทราบว่า ลูกจ้างคนนี้จะอาศัยช่วงเวลาพักเที่ยง รับประทานอาหาร จะขับรถกระบะ ตระเวนส่งยาบ้าให้กับผู้ที่สั่งซื้อ เพื่อนำมาเสพ โดยยาบ้า 3 เม็ด จะขายในราคา 100 บาท จึงได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บริเวณบ้านเลขที่ 306 หมู่ 5 ตำบลห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ผลการปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือนายจักรกฤช ห่วงยก อายุ 30 ปี ที่อยู่ 306 ม.5 ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พร้อมของกลาง เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) จำนวน 759 เม็ด อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 4 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 120 นัด เงินสด จำนวน 142,000 บาท รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ถูกจับกุมพร้อมของกลาง ส่งเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรขุนหาญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
**********
ภาพ … สมคิด อนุพันธ์ อำเภอขุนหาญ
ข่าว … บุญทัน ธุศรีวรณ ศรีสะเกษ
