สมุทรปราการ-สายไหมต้องรอดพาแม่นักศึกษาสาวแจ้งความเอาผิดผู้กองเหี้ยม

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 มีนาคม 2568 ที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และคณะพาแม่และพี่สางของนักศึกษาสาว ปี 2 มหาวิทยาลัยชื่อดัง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายตำรวจหนุ่มชื่อดัง ยศ “ร.ต.อ.” ตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวน สังกัดตำรวจนครบาล 4 หลังมี พฤติกรรมสุดโหด ก่อเหตุลวงแฟนสาวมาที่บ้านก่อนลงมือทำร้ายปางตาย กระดูกใบหน้าแตก เลือดคลั่งในสมอง สาเหตุเพราะระแวงว่าฝ่ายหญิงที่เพิ่งเลิกราไปจะไปมีแฟนใหม่ จึงทำทีง้อขอคืนดีและส่งรถแอพฯไปรับ เมื่อฝ่ายหญิงใจอ่อนยอมมาพบก็ลงมือก่อเหตุ
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านพักในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านย่านสายไหม กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้เสียหาย จับภาพได้ในขณะที่ร้อยตำรวจเอกนายนี้ขับรถเก๋งส่วนตัวมาส่งน้องนักศึกษาที่บ้านพัก ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าฝ่ายมารดาของนักศึกษาสาวรายนี้พอเห็นสภาพใบหน้าของลูกสาวที่ปูดบวมอย่างหนัก จึงให้นายตำรวจนายนี้ออกจากบ้านไปก่อนจากนั้นจึงปิดประตู และมารดาถึงกับโผเข้ากอดลูกสาวทันที ซึ่งจากภาพจะเห็นชายเสื้อดำในคลิปนั่นคือผู้กองที่ผู้เสียหายอ้างว่าเป็นผู้ที่ทำร้ายร่างกาย อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย จากนั้นจึงพาตัวเข้ารักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลย่านสายไหมทันที ล่าสุดมารดาและพี่สาวของนักศึกษาสาวผู้เสียหายรายนี้หอบหลักฐานต่างๆมอบให้กับทางด้านพนักงานสอบสวนของ สภ.บางแก้ว เพื่อแจ้งความเอาผิดกับนายตำรวจรายนี้แล้ว

 

 
ขณะที่ นางแมว (นามสมมุติ) มารดาของนักศึกษาสาว (เบลอหน้า) บอกว่าก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยบอกกับตนว่าถูกนายตำรวจที่คบกันเป็นแฟนทำร้ายด้วยการดึงผม ซึ่งพอตนทราบเรื่องก็มีการเรียกมาพูดคุยและให้ขอโทษ พร้อมทั้งรับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก จนมาช่วงหลังทราบว่ามีการมารับน้องไปอยู่ด้วย ตนเองก็พยามลบอกให้พาน้องกลับบ้านแต่ก็ไม่พากลับจนต้องบอกว่าหากไม่พากลับตนเองจะบุกไปหาเอง เขาจึงยอมพาน้องกลับมาส่งที่บ้านช่วง 11 โมงของวันที่ 26 ซึ่งพอตนเองเห็นสภาพลูกสาวก็ถึงกับช็อกเพราะลูกมีใบหน้าปูดบวมเบ้าตาเขียวซ้ำ พอถามนายตำรวจคนนี้ เขาอ้างว่าน้องตกบันไดบ้านเอง ซึ่งตนเองไม่เชื่อ จึงให้เขาออกจากบ้านไปก่อน และพอถามลูกสาวลูกจึงบอกว่าถูกเขาทำร้าย พอได้ยินคำนั้นตนเองถึงกับร้องไห้และโผกอดลูกตามคลิปวงจรปิดที่เห็น ตอนนี้พูดอะไรไม่ออกกับเรื่องที่เกิดกับลูกสาว
ด้าน นางสาว แก้ว (นามสมมุติ) พี่สาวของนักศึกษาสาวรายนี้ บอกว่า ตนเองมองว่าการกระทำดังกล่าวไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย อีกทั้งน้องสาวตนเองตัวเล็กกว่าเยอะอายุเพียง 21 ปี คงจะสู้แรงฝ่ายชายที่เป็นตำรวจไม่ได้แน่ และถึงแม้จะโกรธหรือมีปัญหาอะไรกันก็ตามแต่ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงกับฝ่ายหญิง ยิ่งผู้กระทำเป็นผู้รักษากฎหมายด้วย ยิ่งไม่ควรเกิดเรื่องเช่นนี้จึงมาขอความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าน้องเคยระบายความในใจบอกว่าอยู่ด้วยกับฝ่ายชายแล้วไม่มีความสุขแต่ก็ยังให้โอกาสฝ่ายชายเรื่อยมา ที่ผ่านมาเคยทำร้ายร่างกายน้องมาแล้วครั้งนี้ครั้งที่ 3 แต่ที่ผ่านมา 2 ครั้งไม่ได้ทำร้ายรุนแรงอะไร จนมาล่าสุดถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า สำหรับเคสนี้เป็นเคสที่ผู้เสียเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือทางเพจสายไหมต้องรอดและผู้เสียหายมีบ้านพักอยู่ในเขตสายไหมด้วย โดยน้องผู้เสียหายก็คือนักศึกษาสาวปี 2 ถูกอดีตแฟน ก็คือ นายตำรวจ ยศ ร.ต.อ. ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายผู้เสียหายได้ขอเลิกรากับนายตำรวจท่านนี้แล้ว แต่ฝ่ายชายพยามของ้อคืนดี จนล่าสุดช่วงช่วงวันอาทิตย์ที่ 23 ที่ผ่านมาฝ่ายชายได้ส่งรถแอพฯไปรับผู้เสียหายที่บ้านพักมายังบ้านของนายตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นมีการลงมือทำร้ายน้องจนน้องบาดเจ็บสาหัส จนเลือดคลั่งในสมอง กระดูกใบหน้าแตกร้าว จมูกหัก และยังต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงพาแม่กับพี่สาวของน้องมาแจ้งความเอาผิดและอยากให้จับกุมตัวโดยเร็วเนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นผู้รักษากฎหมายแต่มากระทำความรุนแรงทำร้ายร่างกายเช่นนี้ ตนเองยังมองว่าการลงมือทำร้ายร่างกายน้องผู้หญิงถึงขนาดนี้มองว่าโหดเหี้ยมเกินไป อีกทั้งหลังเกิดเหตุยังไม่ได้พาน้องไปโรงพยาบาลและซื้อยามาให้น้องทานบรรเทาอาการเจ็บปวดเท่านั้น
นายเอกภพ ยังเปิดเผยทิ้งท้ายอีกว่า ในทางคดีตนเองและทีมสายไหมต้องรอดจะดูแลให้ความช่วยเหลือจนถึงที่สุด ส่วนประเด็นที่ฝ่ายชายระบุว่าน้องล้มเองจนบาดเจ็บ แถมไม่ยอมให้น้องกลับบ้านจนน้องต้องออกอุบายและยอมพูดหรือทำตามที่ผู้ก่อเหตุบอด เพื่อเอาตัวรอดกลับมาหาแม่ อีกทั้งเมื่อเห็นและรู้ว่าน้องอาการหนักขนาดนั้นทำไมคุณไม่พาน้องไปหาหมอและยังไม่อยากให้น้องกลับบ้าน ซึ่งอาจถูกแจ้งข้อหากักขังโหน่งเหนี่ยวด้วย รวมถึงข้อหาที่เกี่ยวข้องทุกข้อหา
*****************************
เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

Related posts