ชลบุรี-“กรมป่าไม้ ตรวจยึดพื้นที่บุกรุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดจันทบุรีต่อเนื่อง”

“กรมป่าไม้ โดยหน่วยเฉพาะกิจปราปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) เดินหน้าตรวจยึดพื้นที่บุกรุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดจันทบุรีต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 ชลบุรี ตำรวจกองกำกับการ 2 บก.ปทส. และกำลังทหารจากหน่วยนาวิกโยธิน เข้าตรวจยึดสวนทุเรียนกว่า 60 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าตกพรม พื้นที่ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี หลังตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบมีการใช้เครื่องจักรหนักเข้ามาปรับพื้นที่ โค่นไม้หวงห้ามขนาดใหญ่กระจายเต็มพื้นที่ พร้อมขยายผลนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย”

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) บูรณาการกำลังกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตามยุทธการ “พิทักษ์ผืนป่าตะวันออก” เป็นการต่อเนื่อง

โดยล่าสุดวันนี้ หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำโดยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) เจ้าหน้าที่ป่าไม้สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตกพรม ท้องที่หมู่ที่ 4 บ้านโชคดี (บ้านเขาขาด) ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เป้าหมายคือสวนทุเรียนที่มีลักษณะของการใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าปรับไถพื้นที่เป็นขั้นบันได จากการตรวจสอบพบมีการบุกรุกปลูกทุเรียนและมังคุด อายุระหว่าง 1 – 2 ปี ปลูกเต็มพื้นที่ พร้อมมีการวางระบบน้ำเป็นระบบ ขณะเดียวกันพบการตัดโค่นล้มไม้หวงห้ามขนาดใหญ่กระจายเป็นวงกว้าง บางส่วนถูกเผาเพื่อทำลายหลักฐาน

โดยยังคงหลงเหลือตอไม้กระจายเต็มพื้นที่ โดยพบตอไม้จำพวกไม้ตาเสือ ไม้กระบก ไม้ยางนา ไม้ยวน ไม้มะหาด ไม้กระบาก และไม้สงพง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับพิกัด คำนวณเนื้อที่ได้ 61-1-57 ไร่ และได้ใช้อากาศยานไร้คนขับ ปฏิบัติการบินถ่ายภาพบริเวณแปลงที่เกิดเหตุ บันทึกภาพลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่ เมื่อนำมาตรวจสอบกับระบบภูมิสารสนเทศ พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตกพรม ไม่ปรากฏการสำรวจถือครอง เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) และไม่พบการอนุญาตหรือสิทธิครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตามกฎหมายอันเกี่ยวข้องในที่ดินแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจสอบพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งพบว่ามีการตัดเส้นทางเชื่อมต่อจากแปลงที่ดินที่ได้ตรวจยึด โดยเป็นแปลงที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งปรากฏชื่อชายคนหนึ่งเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งจะส่งให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมาทำการสอบสวนประกอบการดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมด และไม้หวงห้าม นำเรื่องราวแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตกพรม ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 มาตรา 26/4 และพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี และมาตรา 69 เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป


#ทีมงานอี๊ดกระแสข่าว ภูเบศร์ แซ่หยี รายงาน

Related posts