กำแพงเพชร-จนท.ห้วยขาแข้งจับกุมชาวกัมพูชาลักลอบตัดไม้กฤษณา

กำแพงเพชร-จนท.ห้วยขาแข้งจับกุมชาวกัมพูชาลักลอบตัดไม้กฤษณา หลังซุ่มดักนาน 3 วัน​ เผยเครือข่ายรับจ้างรายได้สูง

20 มีนาคม​ 2568 -​ นายไชยา แดนโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เปิดเผยว่า​ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี สามารถจับกุมชายชาวกัมพูชา 1 ราย ขณะลักลอบตัดไม้กฤษณาในเขตป่าอนุรักษ์ หลังจากลาดตระเวนติดตามร่องรอยการลักลอบตัดไม้นานกว่า 3 วัน​ โดยการจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดการตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในพื้นที่รับผิดชอบ

นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง​ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยน้ำตื้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จับกุมนาย CHHEAV (สงวนนามสกุล)​ อายุ 54 ปี ชาวกัมพูชา อาศัยอยู่ที่จังหวัด Kampong Thom ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 14.20 น. บริเวณค่าพิกัด UTM 47P 0522957E 1740890N หลังพบร่องรอยการถาก ฟันไม้กฤษณาในบริเวณป่ากฤษณายอดห้วยทับเสลา ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เริ่มลาดตระเวนตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2568 และพักค้างแรมในพื้นที่ จนกระทั่งวันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. พบร่องรอยการถากฟันไม้กฤษณา จึงได้แจ้งให้นายมนตรี พูลเพิ่มผล ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์พิทักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าที่ 1 (กะปุกกะเปียง) ทราบ และนายมนตรีได้แจ้งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งได้มอบหมายให้ชุดลาดตระเวนดำเนินการตรวจสอบติดตามร่องรอยเพื่อค้นหาผู้กระทำผิด​ จากการตรวจสอบจนพบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมายังสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อทำการซักถามเกี่ยวกับพฤติการณ์การเข้ามากระทำผิด โดยมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่าร่วมซักถามด้วย และได้ประสานงานกับนางสาวชฎาพร สุพงษ์ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก ทำหน้าที่เป็นล่ามในการจัดทำบันทึกตรวจยึด-จับกุม

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่าตนเองพอฟังภาษาไทยได้แต่พูดไม่ได้ และได้เข้ามาประเทศไทยผ่านด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 และเดินทางไปจังหวัดตราดเพื่อรับจ้างตัดไม้กฤษณา โดยมีพวกอีก 2 คน ชื่อนายโทและนายหง่า ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาเช่นกัน เข้ามารับจ้างตัดไม้กฤษณาด้วย ผู้ว่าจ้างให้ค่าจ้างสูงถึง 5,000 บาทต่อไม้กฤษณา 1 กิโลกรัม

ผู้ต้องหาเล่าว่า เมื่อถึงเวลานัดหมาย มีคนไทยซึ่งไม่ทราบชื่อขับรถกระบะสีขาวมารับตนและพวกรวม 3 คน เดินทางมาแนวชายป่าในช่วงเวลากลางคืน ประมาณวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 โดยพวกตนมีเสบียงอาหารติดตัวมาคนละประมาณ 20-25 กิโลกรัม หลังจากนั้นมีคนไทยอีกคนมารับช่วงต่อและพาเข้าป่า โดยคนไทยคนนี้อยู่กับพวกตนประมาณ 10 วันแล้วจึงออกจากป่าไป จากนั้นผู้ต้องหาและพวกได้แยกกันสำรวจหาไม้กฤษณา หากพบร่องรอยที่มีการฟันไม้ทิ้งไว้ก่อนแล้วจะย้อนกลับมาสักชิ้นไม้กฤษณา​ ผู้ต้องหาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เคยรับจ้างหาไม้กฤษณาที่ประเทศมาเลเซียและเข้ามารับจ้างหาไม้กฤษณาในประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง สำหรับโทรศัพท์ของผู้ต้องหานั้น ได้เก็บไว้ในรถกระบะไม่ได้นำติดตัวมา

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งสถานีตำรวจภูธรลานสัก และแจ้งข้อหาการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรลานสัก

สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายจากการปฏิบัติงาน และได้วางแผนดำเนินการขั้นต่อไปโดยจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนจำนวน 3 ชุด ตรวจสอบพื้นที่บริเวณใกล้เคียงจุดที่พบการกระทำผิด ประสานงานอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ร่วมปฏิบัติงานดักซุ่มในบริเวณที่คาดว่าเป็นเส้นทางเข้าออกในพื้นที่รับผิดชอบ ทำการข่าวบริเวณพื้นที่ชายขอบกับชุมชนบริเวณรอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งและอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ รวมถึงประสานงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวและศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่าเพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น.
สุเทพ อินทจันทร์ กำแพงเพชร

Related posts