ชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงรายร่วมโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตในพื้นที่จังหวัด ประเด็นความเสี่ยงการทุจริตเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างและการรับแจ้งการขุดดินและถมดินณ ห้องกินรี โรงแรมลักษวรรณรีสอร์ท อำเภอเมืองเชียงรายจังหวัดเชียงราย นายกิตติศักดิ์
พิมสาร ผู้อำนวยการสํานักงาน ป.ป.ช.ประจ๋าจังหวัดเขียงราย พร้อมด้วยกลุ่มงานป้องกันการทุจริต จัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตในพื้นที่จังหวัด ประเด็นความเสี่ยงการทุจริตเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างและการรับแจ้งการขุดดินและถมดิน มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต
จังหวัดเชียงราย นำโดยนางวันดี ราชชมภู ประธานคณะกรรมการชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีวาระการประชุม ดังนี้
1. มาตรการป้องกันการทุจริตในการออกใบอนุญาตก่อสร้างและการรับแจ้งขุดดินและถมดิน โดยนายนั้ง แสงเพชรไพบูรณ์ หัวหน้า กลุ่มงานป้องกันการทุจริต สํานักงาน ป.ป.ช.ประจําจังหวัดเชียงราย
2. การพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้าง ความเสี่ยงและการป้องกันการทุจริตในการรับสินบน โดย นายกฤตธัช อุทัยศิลป์วิศวกรชํานาญการ กองช่างเทศบาลนครเชียงราย
3. การรับแจ้งการขุดดินและถมดิน ความเสี่ยงและการป้องกันการทุจริตในการรับสินบน โดย นายยุทธนา ชูศรีโฉม ผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนตําบลแม่กรณ์
การจัดกิจกรรมประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฝ้าระวังและลดความเสี่ยงการทุจริตเกี่ยวกับการรับสินบนในการออกใบอนุญาตก่อสร้างและการรับแจ้งการขุดดินและถมดิน และเสริมสร้างการมีส่วนร่วม ปลุกจิตสํานึกในการต่อต้านการทุจริตเพื่อป้องกันการเกิดทุจริต ต่อไป ปัจจุบันการขยายตัวของเมืองในด้านการก่อสร้างอาคารมีมากขึ้น โดยเฉพาะในภาพรวมของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของเมืองใหญ่ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และเริ่มขยายตัวออกไปสู่เขตปริมณฑลไปจนถึงหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน จะเปิดโอกาสให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในไทยสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีการทุจริตมากขึ้น โดยเฉพาะในกระบวนการขอออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ซึ่งมีข่าวเกี่ยวกับอาคารทรุด ตึกถล่ม ไฟไหม้อาคาร และเกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของชุมชนที่พักอาศัย ได้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบางครั้งกลายเป็นภาพที่สร้างความสลดใจให้กับสังคมเป็นอย่างมากและอาจจะมีเจ้าพนักงานของรัฐผู้เกี่ยวข้องเข้าไปมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ หรือเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาการเรียกรับสินบนของหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นมะเร็งร้ายที่บ่อนทำลายประเทศไทยโดยเฉพาะการก่อสร้างที่อยู่อาศัยหรืออาคารต่าง ๆ ที่อยู่ในโครงการของบริษัทพัฒนาที่ดิน รวมไปถึงการว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้านต่างต้องตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน คือต้องจัดสรรงบจำนวนหนึ่งไว้เพื่อการจ่ายสินบนให้เจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โครงการสามารถเสร็จตามที่กำหนดไว้ดังนั้นสินบนตัวนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาชนต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในรูปต่าง ๆ และการว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้านในราคาที่แพงเกินจริง เพราะเหตุที่ผู้ประกอบการได้บวกต้นทุนสินบนเพื่อแลกกับการทำให้โครงการดำเนินต่อไปได้ประกอบกับการต้องขอใบอนุญาตปลูกสร้างกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
เช่น สำนักงานเขตหรือกรุงเทพมหานคร สำนักงานเมืองพัทยา องค์กาบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่จังหวัดนั้น ๆ เป็นต้น การจะได้ใบอนุญาตก็ต้องมีสินบน เพื่อให้ได้รับใบอนุญาตอย่างรวดเร็ว และได้ดำเนินโครงการก่อสร้างได้ทันเวลา รวมถึงมาตรการทุจริตเกี่ยวกับการขุดดินและถมดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายมีการลักลอบขุดหน้าดินโดยมิได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือใบอนุญาตหมดอายุ ซึ่งกระทบต่อรายได้จากค่าธรรมเนียมที่รัฐควรได้ มีการขุดดินผิดไปจากแบบแปลนตามหลักวิชาการเกินกว่าที่ขออนุญาตหรือจำนวนแรงม้าของเครื่องยนต์ไม่ได้เป็นไปตามขนาดที่ขออนุญาตส่งผลทำให้พื้นที่ที่ดินบริเวณข้างเคียงเกิดการทรุดตัวและพังทลายได้รับความเสียหายและมีการบรรทุกดินน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดทำให้ถนนหนทางชำรุดเสียหายซึ่งกระทบต่องบประมาณของภาครัฐจำนวนมากในการซ่อมบำรุง รวมถึง การรับสินบนของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้พิจารณาการให้ใบอนุญาตขุดดิน และเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้เข้าไปตรวจสอบควบคุมการประกอบกิจการขุดดินให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบกับสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรียนในประเด็นเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่ในการออกใบอนุญาตสำหรับ ขุด ตัก ลอก หรือดูดทรายหรือดิน ที่มีความซ้ำซ้อนกันหลายหน่วยงาน ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 63/2567 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ให้เสนอมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการชุดดินและถมดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อคณะรัฐมนตรี ตามนัยมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
กานต์พิชชา สุรีคุณาพงษ์
เชียงราย/รายงาน
