ททท.สตูลร่วมส่งเสริมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทยปีใหม่ไทย สงกรานต์ เชิญชวนสายมูชาวไทยพุทธร่วมพิธีก่อเจดีย์ทราย และสรงน้ำพระพุทธรูป
วันที่ 10 เมษายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศกาลสงกรานต์ 2567 ปีนี้ หลายคนคงมีแผนวันหยุดยาว เดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ บางครอบครัวก็รอลูกหลานกลับไปหา และฉลองปีใหม่ไทยด้วยกัน สำหรับคนไทยชาวพุทธ และสายบุญ ก็ต้องไม่พลาดการเสริมสิริมงคล ทำบุญ ไปวัด สรงน้ำพระ ตามวัดต่างๆ โดยทางนายไพรัช สุกงาม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล ได้เชิญชาวไทยพุทธ แต่งกายชุดไทย และ กลุ่มสายมู ให้ได้ได้เดินสายทำบุญสร้างกุศลช่วงสงกรานต์ เพื่อเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในวันปีใหม่ไทย เชิญร่วมทำบุญ ณ วัดสตูลสันตยาราม ( วัดป่าช้าไทย ) ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ได้จัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนามาตลอดทุกๆปี
โดยปีนี้พระปลัดสุริยา ติสาโร เจ้าอาวาสวัดสตูลสันตยาราม ( วัดป่าช้าไทย ) ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ได้ขอเชิญท่านสาธุชนคนมีบุญ กลุ่มสายมู ร่วมประเพณีสืบสานวัฒนธรรมไทย วันสงกรานต์ปีใหม่ไทย และร่วมทำบุญก่อเจดีย์ทราย และสรงน้ำพระพุทธรูป ในวันที่ 13 เมษายน 2567 กิจกรรมเริ่มเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมสรงน้ำพระตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และร่วมทำบุญจองกองทราย กองละ 299 บาท หรือผู้มีจิตศรัทธาทำบุญก่อเจดีย์ทรายกองใหญ่
ด้านพระปลัดสุริยา ติสาโร เจ้าอาวาสวัดสตูลสันตยาราม ( วัดป่าช้าไทย ) กล่าวว่า ทำมาตลอด 8 ปี ในการสืบสานวัฒนธรรมไทย และการจัดขนทรายเข้าวัด ก่อเจดีย์ทราย สงกรานต์ปีนี้ ก็จัดให้กลุ่มชาวไทยพุทธที่เดินทางทำบุญในวันสงกรานต์ และถือเป็นวะนครอบครัวไทย มาทำบุญ สร้างบุญกุศล ก่อเจดีย์ทราย
นอกจากนี้สงกรานต์ 2567 กับ ประเพณีที่กำลังจะเลือนหาย “ก่อเจดีย์ทราย” ขนทรายเข้าวัด ทำความรู้จักให้มากขึ้น กับประเพณีที่เป็นกุศลทางพระพุทธศาสนา พร้อมอานิสงส์จากการก่อเจดีย์ทราย ขนทรายเข้าวัด
สิ่งที่ผู้คนนิยมทำในวันสงกรานต์นั้น มีทั้งการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อกลับไปรดน้ำดำหัว พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ญาติพี่น้องได้กลับมารวมตัวกัน ได้พบปะสังสรรค์ ตลอดจนการเข้าวัด ทำบุญ การขนทรายเข้าวัด ก่อเจดีย์ทราย และการละเล่นสาดน้ำตามประเพณี
ซึ่งในปัจจุบัน พบว่า ประเพณีขนทรายเข้าวัด และก่อเจดีย์ทราย เริ่มเลือนหายไปจากวันสงกรานต์ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป วัดได้ดัดแปลงจากพื้นทรายรอบวิหารให้เป็นพื้นคอนกรีต หรืออิฐบล็อกแทน ทำให้ผู้คนไม่ค่อยนิยมขนทรายเข้าวัด และก่อเจดีย์ทรายเช่นในอดีต จึงฟื้นประเพณีวัฒธรรมทางศาสนากลับมา พร้อมกับน้ำทรายที่ชาวบ้านทำบุญไว้ทำก่อสร้างใช้ทมที่ภายในวัด หรือนำไปก่อสร้างต่อเติมที่ในวัดที่ชำรุดได้
เอนก ขันทสิกรรม สตูลรายงาน