จังหวัดลำปาง พิจารณาโครงการชุมชนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

ลำปาง-ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ คพรฟ.กองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พิจารณาโครงการชุมชนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

 

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2567 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระอาจารย์ สาธิต ธีรปญฺโญ ผู้อำนวยการสถาบันธรรมาภิวัฒน์ บ้านสบเติ๋น ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เลขานุการอนุกรรมการสิทธิชุมชน ความเป็นธรรมและความเลื่อมล้ำ มูลนิธิโพธิยาลัย แจ้งว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า กองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พิจารณาโครงการชุมชนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดยเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้อ่านผลแห่งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
ในคดีหมายเลขดำที่ อส. 109/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อส. 283/2566 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนที่ 1 กับพวกรวม 47 คน (ผู้ฟ้องคดี) คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า กองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ที่ 1 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ที่ 2 (ผู้ถูกฟ้องคดี)

ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 นำโครงการของผู้ฟ้องคดี จำนวน 11 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการชุมชนที่เกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางต้านสุขภาพจากการดำเนินการของโรงไฟฟ้า เข้าสู่การพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 กำหนด ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 พิจารณาโครงการชุมชนจำนวน 11 โครงการของผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงผู้ฟ้องคดีที่ 47 ซึ่งเป็นโครงการที่คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตำบล(คพรต.) กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าแม่มาะ จังหวัดลำปาง มิได้นำเสนอต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือ
ฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 และพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 กำหนด ทั้งนี้ ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

โดยวินิจฉัยว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 เป็นองค์กรที่มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติโครงการชุมชน ส่วน คพรต. เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการพิจารณากลั่นกรองโครงการชุมชนต่าง ๆ ก่อนนำเสนอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 พิจารณาอนุมัติ ซึ่งอำนาจในการกลั่นกรองโครงการนั้นย่อมเป็นตุลพินิจของ คพรต. แต่ละคน และเมื่อได้ผลของการกลั่นกรองเป็นเช่นใดแล้ว คพรต. ไม่มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติโครงการชุมชน เพราะอำนาจโนการพิจารณาอนุมัติโครงการชุมชนเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ตามข้อ 11 (5) ของระเบียบคณะกรรมการทำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 ด้วยเหตุนี้ คพรต. จึงมีหน้าที่ที่จะต้องเสนอผล การพิจารณากลั่นกรองและการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการเพื่อให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้พิจารณาทั้งหมด
ตามนัยข้อ 25 (4) ของระเบียบเดียวกัน การที่ คพรต. มีความเห็นว่าโครงการชุมชนจำนวน
11 โครงการของผู้ฟ้องคดีมีวัตถุประสงค์ไม่เป็นไปตามมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังาน พ.ศ. 2550

โดยได้พิจารณาและจัดเรียงลำดับของโดครงการดังกล่าวในลำดับท้าย ๆ และไม่นำโครงการของผู้ฟ้องคดีมาพิจารณาอนุมัติเพื่อบรจุเข้าแผนงานประจำปี เพื่อเสนอต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กรณีดังกล่าว จึงเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มิได้พิจารณาโครงการชุมชน จำนวน 11โครงการของผู้ฟ้องคดี โดยอ้างว่า เมื่อ คพรต. ได้มีมติวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ย่อมมิอาจก้าวล่วงไปในส่วนของการพิจารณาวินิจฉัยของ คพรต. ได้ เมื่อภายหลังการพิจารณาแล้ว คพรต. มิได้นำเสนอโครงการทั้ง 11 โครงการของผู้ฟ้องคดีเข้าสู่การพิจารณาของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงไม่อาจพิจารณาโครงการชุมชน
ที่ คพรต. พิจารณาจัดลำดับแล้วได้ จึงเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติด้วยเช่นกัน.

 

วินัย/ลำปาง รายงาน

Related posts