นครพนม-ตะลึงทั้ง รร.มีครูคนเดียว ผอ.ฯแก้สถานการณ์ คว้าธุรการสวมบทครู วอน ศธ.ให้ความสำคัญ รร.เล็กๆด้วย
ผู้สื่อข่าวได้รายงานเรื่องราว เกี่ยวกับการศึกษาของไทย ว่า พัฒนาก้าวไกลมากน้อยแค่ไหน เพราะยังมีหลงเหลือเหมือนอยู่ในยุคกระดานชนวน กล่าวคือในพื้นที่จังหวัดนครพนม พบโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลตัวจังหวัดมากนัก แต่คล้ายอยู่ห่างไกลปืนเที่ยง ได้แก่ โรงเรียนบ้านดงโชค หมู่ 1 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เพราะทั้งโรงเรียนมีครูสอนอยู่คนเดียว รับผิดชอบการเรียนการสอนนักเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาล 2-ประถม 6 รวมทั้งสิ้น 19 คน
โดย นายสุนทร ผูนา ผู้ใหญ่บ้านดงโชคหมู่ 1 เปิดเผยว่าโรงเรียนแห่งนี้ชาวบ้านร่วมกันบริจาคที่ดินก่อสร้าง เริ่มจากปี 2484-2548 มีครูใหญ่ 6 คน จากนั้นก็เปลี่ยนผู้บริหารมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน(ผอ.รร.ฯ) ถึงขณะนี้มี 3 คน ปัจจุบันมีนายศุภมาศ กุลตังวัฒนา เป็น ผอ.รร.ฯ ขณะที่ นร.ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานที่พ่อแม่มาฝากปู่ย่าตายายเลี้ยง หรือมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ที่มีอาชีพเป็นเกษตรกร ดังนั้นผู้ปกครองจึงนำลูกหลานมาฝากครู ขณะออกไปทำงานในเทือกสวนไร่นา เมื่อถามว่า รร.ขาดแคลนหรือไม่ นายสุนทรตอบงบประมาณที่ได้มีไม่มาก ชาวบ้านจึงลงขันกัน เช่น จัดผ้าป่าสามัคคี ได้เงินมาก็มอบให้ ผอ.ฯไปซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน เหมือนกล้องวงจรปิดก็เป็นเงินที่ได้จากการตั้งผ้าป่าฯ ถ้ารอเงินจากหลวงตกมาคงยาก
ด้าน นายศุภมาศ กุลตังวัฒนา ผอ.รร.บ้านดงโชค กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่ทั้งโรงเรียนมีครูคนเดียว คือ นางสาวธัญลักษณ์ ดีจันทร์ อายุ 23 ปี ตำแหน่งครูผู้ช่วย ที่เพิ่งบรรจุเป็นข้าราชการครู เมื่อเดือนพฤศจิกายน 66 ที่ผ่านมา ส่วนคนเก่าย้ายไปสอน รร.ใหม่ เพราะสอบบรรจุได้ วิธีแก้ไขก็เอาพนักงานราชการที่ปกติทำหน้าที่อื่นมาช่วยสอน รวมถึงการทำความสะอาดห้องน้ำ ยอมรับว่าทุลักทุเลพอสมควร ทุกคนแทบไม่มีสิทธิ์ลา หากคนใดคนหนึ่งป่วย ความโกลาหลจะเกิดขึ้นทันที เคยให้ผู้เรียนจบ ป.ตรีในหมู่บ้านมาช่วยสอน ก็ถูกดราม่าจนต้องยกเลิกไป ในขณะที่งบประมาณได้มาเพียงปีละ 3 หมื่นบาทเศษเท่านั้น
ส่วนกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยกเลิกมติ ครม.ปี 2542 กรณีครูไม่ต้องเข้าเวรแล้ว หลังเกิดเหตุรุนแรงกับครูถูกทำร้ายในพื้นที่ จ.เชียงราย ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก พร้อมเห็นว่ารัฐบาลควรยกเลิกมตินี้นานแล้ว ที่ผ่านมาครูต้องมาอยู่เวรในวันหยุด โดยครูผู้หญิงอยู่เวรกลางวัน และครูผู้ชายอยู่เวรกลางคืน
ส่วน น.ส.ธัญลักษณ์ ดีจันทร์ ครูผู้ช่วย กล่าวว่า ชั้นอนุบาล 2-3 ทาง ผอ.ฯมอบให้ น.ส.สุภาพร อินคง เจ้าหน้าที่ธุรการดูแล ตนเองรับผิดชอบชั้น ป.1-ป.3 ส่วนนายสมบัติ โสมี พนักงานราชการที่ขอตัวมา สอนชั้น ป.4-ป.6 การสอนจะดูที่แต่วิชา ว่า สามารถสอนรวมกันได้หรือไม่ ถ้ารวมได้ก็จะเอา นร.มาเรียนรวมกัน ยอมรับว่าเหนื่อย แต่เห็นหน้าน้องๆแล้วรู้สึกมีพลัง เป็นไปได้อยากให้มีครูมาเพิ่ม การเรียนการสอนก็จะมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ นายสมบัติ โสมี อายุ 33 ปี เปิดเผยว่าเด็กที่นี่ขาดโอกาส จึงเพิ่มทักษะการเรียนรู้ เพราะคำนึงถึงอนาคตของพวกเขา แม้ทาง รร.ได้รับงบประมาณมาน้อยนิด แต่ต้องการให้ลูกหลานเปิดโลกทัศน์กว้างขึ้น จึงจัดทัศนะศึกษาไปยังจังหวัดใกล้เคียง ค่าจ้างเหมารถตกประมาณ 1 หมื่นบาท เป็นเงินงบประมาณที่ได้จากรัฐ แต่ทุกคนต้องกินจึงให้ นร.ห่อข้าวจากบ้านไปด้วย ส่วนกับข้าวช่วยกันควักกระเป๋าคนละเล็กละน้อย และอีกส่วนหนึ่งได้จากงบอาหารกลางวันของเทศบาลตำบลหนองญาติ ที่ช่วยเหลืออยู่ก่อนแล้ว ตนได้เห็นน้องๆตื่นเต้นกับบันไดเลื่อนห้างสรรพสินค้า เพราะพวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน จึงอยากให้เขาได้รับการพัฒนาการที่ดีกว่านี้
นอกจากนี้ นายศุภมาศ กุลตังวัฒนา ผอ.รร.ฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยงบประมาณมีน้อย จึงต้องไปขอความอนุเคราะห์จากหลายหน่วยงาน เช่น กรมทางหลวง ทหาร ตำรวจ ฯลฯ ด้านอุปกรณ์ทางการกีฬา หรือสิ่งของที่เกี่ยวกับการเรียนการสอน ยังดีที่มีผู้ปกครองของน้องๆ มาช่วยกันทำความสะอาด จึงอยากให้กระทรวงศึกษาธิการเหลียวมอง และให้ความสำคัญโรงเรียนขนาดเล็ก น้องๆเหล่านี้ต้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม (061-2838566)