สุรินทร์-สุดเศร้าในงานศพพ่อค้ารังผึ่งถูกรถกะบะพุ่งซนกระเด็นต่อหน้าภรรยาแล้วขับหลบหนีลอยนวล
ที่อําเภอรัตนบุรี ซุ้มร้านขายของป่า ถนนรัตนบุรี- บ้านสําโรง ท่าตูม บ้านสําโรง หมู่14 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เมื่อช่วงวันที่12มกราคม2567เวลา15.30น.
เมื่อวานที่ผ่านมาได้เกิดเหตุ นายสุรัตน์ คุมสุข อายุ39ปี พ่อค้ารังผีงป่า เอารั่งผึ่งที่หาเก็บมาได้มาส่งให้ภรรยาขาย ในซุ้มร้านขายของป่าของชุมชนบ้านสําโรง ที่เปิดร้านขายตามขอบถนน เส้นสายรัตนบุรี-บ้านสําโรง-ท่าตูม ก่อนนายสุรัตน์ คุมสุขจะถูกรถ กะบะ ที่ขับแซงซ้ายมาพุ่งชนในขณะที่นายสุรัตน์ คุมสุขกําลังนั่งค่อมรถ จยย.อยู่ไหล่ทางหน้าร้านขายของป่าของตนเองจนร่างและรถ จยย.กระเด็นไปไกลเกือบ10เมตร นายสุรัตน์ อาการสาหัสก่อนจะสิ้นใจในเวลาต่อมา จนสร้างความโศรกเศร้าของภรรยาและลูก แม่และญาติๆชึ่งขาดเสาหลักไป…………………
วันนนี้ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุรินทร์หลังทราบข่าวได้ลงพื้นที่ บริเวณจุดเกิดเหตุชึ่งเป็นแหล่งรวมร้านขายของป่าของชุมชนบ้านสําโรง ที่เป็นแหล่งซื้อขายของป่าต่างๆมากมาย ขึ้นชื่อลือชาของประจําอําเภอรัตนบุรี และผู้สื่อข่าวได้เจ็บภาพบรรยากาศพ่อค้าแม่ค้าขายพวกของป่า เช่นรังผึ่งป่าสุดเงียบเหงาและบางรายยังตกใจในเหตุการณ์เพราะตั้งเปิดขายกันมาเกือบ30ปี พึ่งเคยเกิดเหตุสลดในครั้งนี้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่งานศพของนายสุรัตน์ คุมสุข อายุ39ปี 276 หมู่14 บ้านสําโรง ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์พบบรรยากาศอันแสนเศร้าของคนในครอบครัวและเครือญาติ เพื่อนบ้านที่อออมาร่วมงานกัน ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆถึงสาเหตุ อันแสนฉับไวการจากไปของนายสุรัตน์ คุมสุข ที่เป็นคนขยั่นขันแข็งหมั่นออกตระเวนออกหาของป่า อาทิเช่นรังผึ่งป่ามาให้ภรรยาวางขายเพื่อเป็นรายได้จุนเจือครอบครัวจนเป็นเสาหลัก……และการจากไปของนายสุรัตน์ก็ไม่เค้าลางบอกเหตุใดๆ….
โดยนางละออง ไกรศูยน์ อายุ47ปี 276หมู่14 ต.รัตนบุรี ภรรยาของนายสุรัตน์ สามีผู้ตายเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยเสียงร้องสะอึดสะอื้นเคล้านํ้าตาว่า..สามีไปหาเก็บรังผึ่งป่ากลับมาช่วงเวลาบ่ายสามกว่าๆเพื่อจะเอารังผึ่งป่าไปส่งให้พี่สะไภ้ ในซุ้มร้านของพี่สะไภ้และตนเองได้ตกลงราคารังผึ่งกับพี่สะไภ้นานพอสมควร ส่วนสามีนั่งคุยกันเล่นกับหลานในซุ้มร้านของตัวเองอยู่ๆจากนั้นสามีจึงออกมานั่งค่อมรถ.จยย.ที่จอดไว้ไหล่ทางหน้าร้านของตนก่อนตนจะได้ยินเสียงดังตั้มคนกับรถกระเด็นไปด้วยกัน. จากนั้นตนจึงรีบวิ่งไปดูสามีเห็นสภาพสามีนอนจมกองเลือดเพราะว่ารถคันที่ชนนั้นเหยียบทับศรีษะเลือดออกทั่วศรีษะกระโหลกศรีษะเปิดแหล่ะไปหมด จากการชันสูตน์แพทย์ตับแตกกระดูกชีกโครงหักเสียบ…..ตนจึงอยากวิงวอนผู้ที่ขับรถกะบะคันดังกล่าว มารับผิดชอบด้วย หรือมาถามความรู้สึกตนและลูกด้วยสงสารตนด้วยตนหมดเสาหลักที่พึ่งไปแล้วตนกับลูกชาย วัย10 ขวบจะอยู่กันอย่างไร เสียงสะอื้นๆๆๆ…(นางละออง ภรรยาผู้ตายเล่าด้วยเสียงสะอื้น…)
ส่วนนางอัมพร แสนสุข อายุ68ปี 276 หมู่14 บ้านสําโรง ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรีผู้เป็นแม่นายสุรัตน์ ผู้ตายแม่เล่าด้วยนํ้าตาคอเบ้านํ้าเสียงสะอื้นบอกเพียงสั้นๆว่าวอนผู้ขับรถซนลูกชายตนช่วยเห็นใจด้วยครอบครัวตนสุดแสนจะยากจนเพราะลูกคนเล็กคนนี้เป็นเสาหลักให้ครอบครัวมาโดยตลอด…และวิงวอนเจ้าหน้าที่ตํารวจเร่งช่วยตามผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบโดยเร็ว..(นางอัมพร แม่ผู้ตายกล่าว)
ส่วนทางเรืองคดีนายสามิตร ชุมศรี ผู้ใหญ่บ้านสําโรง หมู่14 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ หลังได้โทรศัพท์ชอบถาม พนักงานสอบสวน สภ.รัตนบุรี ต่อหน้าผู้สือข่าวได้รับคํายืนยันว่า คาดว่าไวๆนี้จะทรางข่าวไม่เกินวันจันทร์นี้แน่นอนหลังมีผู้ให้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ร้านค้า กล้องวงจรปิดหน้ารถในวันเกิดเหตุ ที่คาดว่ารถคันก่อเหตุชนแล้วชิ่งหนี้ผ่านโดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.รัตนบุรีนํารถคันก่อเหตุแล้วไม่ให้ความช่วยเหลือแถมยังเร่งเครื่องควันดําตลบหนีไป…มาดําเนินคดีให้จงได้ (นายสามิตร ชุมศรี ผู้ใหญ่บ้าน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง)
/ภาพ/ข่าว/นายบุญเรือง เกษรจันทร์/สุรินทร์/รายงาน/