นครพนมยาเสพติดทะลักหนัก ปจ.เข้มเดินหน้ากวาดบ้านตัวเอง ประกาศเป็นวาระจังหวัด สั่งตรวจฉี่คนของรัฐ จับได้จุดไหนสอบผู้รับผิดชอบ

นครพนมยาเสพติดทะลักหนัก ปจ.เข้มเดินหน้ากวาดบ้านตัวเอง ประกาศเป็นวาระจังหวัด สั่งตรวจฉี่คนของรัฐ จับได้จุดไหนสอบผู้รับผิดชอบ

สืบเนื่อง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ จ.นครพนม เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยหารือร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เพื่อวางมาตรการเชิงรุก ในการแก้ไขปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ตามนโยบายรัฐบาล ยกพื้นที่ 4 อำเภอริมแม่น้ำโขงของ จ.นครพนมเป็นพื้นที่พิเศษ ได้แก่ 1.อ.บ้านแพง 2.อ.ท่าอุเทน 3.อ.เมืองฯ และ 4.อ.ธาตุพนม นำร่องต้นแบบอีสาน ในการปราบปรามยาเสพติดที่ทะลักมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งเป้าในระยะเวลา 1 ปีจะต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน เริ่มจากการสแกนเอกซเรย์คัดกรองปราบปราม เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ นักการเมือง ที่อาจมีเอี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ไปจนถึงสร้างความร่วมมือกับท้องถิ่น ชุมชน ประกาศสงครามยาเสพติด ค้นหาผู้เสพไปจนถึงผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่
ทั้งนี้ ถือว่าพื้นที่อีสานตอนบน มียาเสพติดทะลักนำเข้าระบาดหนักไม่แพ้ภาคเหนือ รอบปีที่ผ่านมายึดยาบ้ามากกว่า 37 ล้านเม็ด ยาไอซ์มากกว่า 1,200 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีการตรวจยึดกัญชา ซึ่งแตกต่างจากอดีต เดิมกัญชาจะลักลอบเข้ามาในลักษณะแพคอัดแท่ง ห่อด้วยพาสติกหรือกระดาษฟอยล์ หลังปลดพืชกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 ก็เปลี่ยนเป็นบรรจุกระสอบหัวอาหารปลา หรือกระสอบปุ๋ย เพื่อนำมาซอยแยกเป็นห่อๆเพื่อจำหน่ายแก่นักพี้ และวางขายอย่างโจ่งครึ่ม
ต่อมา พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 (ผบ.นบ.ยส.24) พร้อมคณะหน่วยงานความมั่นคง ร่วมชี้แจงการขับเคลื่อนงานตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และผู้รับผิดชอบเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยมี ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมประชุมและรายงานถึงปัญหาการแก้ไขยาเสพติดในพื้นที่ และได้ให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเป็นช่องทางแจ้งชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ณ ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม
ล่าสุด นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้เชิญส่วนราชการทุกส่วน ทหาร นายอำเภอ ผู้กำกับการ หัวหน้าสถานีตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และผู้ใหญ่บ้าน กำนันทุกตำบล เข้าร่วมประชุม เพื่อมอบนโยบายการปฏิบัติงานการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดฯ ซึ่งหลังจาก ผวจ.กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการประชุมครั้งนี้แล้ว ยังได้เป็นผู้นำกล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าองค์พระปฏิมา โดยกำชับว่าอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเด็ดขาด ถ้าตรวจพบตรวจสอบแล้วเชื่อได้ว่ามีมูลความจริง จะดำเนินการเบื้องต้นเกี่ยวกับในทางการปกครอง ควบคู่กับกระบวนการทางกฎหมาย
จากนั้น นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม (ปจ.ฯ) ได้เปิดเผยว่าพื้นที่นครพนม มีชายแดนตลอดแนวแม่น้ำโขงยาว 174 กิโลเมตร ได้มอบพื้นที่ให้ฝ่ายทหาร ซึ่งนำโดย พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาค 2 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 (ผบ.นบ.ยส.24) เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ขึ้นจุดไหน ก็จะสอบว่าหน่วยไหนรับผิดชอบจุดนั้น ส่วนพื้นที่ชั้นในจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ กับ ฝ่ายปกครอง
ในทางปฏิบัติเรื่องแนวนโยบายยาเสพติด ขอประกาศเป็นวาระของจังหวัด ควบคู่กับหนี้สินประชาชน และปราบปรามผู้มีอิทธิพล มาตรการแรกที่ต้องขอความร่วมมือคือกวาดบ้านตัวเอง หัวหน้าส่วนทุกส่วน อำเภอทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยแพทย์ สารวัตรทุกคน ภายใน 1 เดือน คือ มค.67 ทั้งเดือน ขอให้แต่ละหน่วยตรวจปัสสาวะคนของตัวเอง โดยไม่ได้นัดหมาย ให้เรียบร้อยภายในเดือน มค.67 นี้ เพราะต้องการทราบจริงๆว่าบุคลากรของรัฐ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ถ้าตรวจพบรอบแรกอาจทำสนธิสัญญากันไว้ก่อน แต่ถ้ารอบต่อไปยังมี ก็จะตั้งกรรมการสอบหัวหน้าส่วนราชการด้วย ในฐานะผู้บังคับบัญชา
อันที่สองคือรีเอกซเรย์ (RE X – ray) ไปจนถึงปีใหม่ ให้ส่วนราชการทุกท่าน ไปดูว่าลูกน้องมีเอี่ยว หรือมีข้อมูลว่าส่วนราชการไหน มีส่วนเกี่ยวข้องยาเสพติด ทำซองปิดผนึกโดยไม่ต้องลงชื่อ ส่งถึง ผวจ.นครพนมโดยตรง และผู้ใหญ่บ้าน กำนันทุกตำบล ต้องไปรีเอกซเรย์ผู้ค้าในหมู่บ้านออกมา ถ้าบอกว่าไม่มีผู้ค้าในหมู่บ้าน แต่วันหน้าไปจับได้จะตั้งกรรมการสอบทันที เพราะให้รายงานแล้วแต่ไม่รายงาน ก่อนปีใหม่ต้องรายงานข้อมูลนี้เข้ามาที่จังหวัด พูดง่ายๆก็คือข้อมูลผู้ค้า ผู้เสพทุกราย ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หลังรับรายงานแล้วจะไปตรวจสอบซ้ำอีกทีหนึ่ง ยืนยันว่าข้อมูลที่รายงานเป็นความลับสุดยอด ภายใน 3 เดือนก็จะมาวัดผลการดำเนินการ
ทั้งนี้ พื้นที่ชายแดนอีสานที่อยู่ติดแม่น้ำโขง เป็นพื้นที่ลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เรือข้ามฝั่งข้ามมาขึ้นฝั่งไทย โดยพบว่า จ.นครพนม เป็นพื้นที่มีปัญหาลักลอบนำเข้ายาเสพติดมากที่สุด ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 31 คดี ยาบ้าเกือบ 12 ล้านเม็ด ไอซ์อีกเกือบ 2 พันกิโลกรัม ประกอบกับมีกำลังป้องกันชายแดนไม่เพียงพอ รวมถึงบริเวณชายแดนตามลำน้ำโขงมีเกาะดอนจำนวนมาก ทำให้เป็นพื้นที่พักยาเสพติด และยังมีชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขง ประกอบอาชีพหาปลา จึงยากต่อการจัดระเบียบเรือ ในการแยกเรือประมง และเรือที่ลำเลียงยาเสพติดได้
นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ เริ่มผันตัวเองเข้าสู่ระบบอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสร้างฐานอำนาจที่เอื้อต่อการลักลอบนำเข้า อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วน เข้ามาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในหลายมิติเป็นระยะเวลายาวนาน รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่มีความสัมพันธ์ลักษณะเครือญาติ สามารถข้ามไปมาระหว่างไทยลาวได้อย่างสะดวก จึงทำให้สะดวกต่อการค้ายาเสพติด
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม (061-2838566)

Related posts