สุรินทร์/ชาวบ้านกลุ่มออมทรัพย์เพื่อผลผลิตลุกฮือบุกโรงพักแจ้งความ คณะกรรมการกู้ยืมเงินกันเอง! เบี้ยวไม่จ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นแก่ชาวบ้าน ก่อนแจ้งยุบกลุ่มออมทรัพย์เพื่อผลผลิตไปดื้อๆ ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 1.3 ล้านบาท

สุรินทร์/ชาวบ้านกลุ่มออมทรัพย์เพื่อผลผลิตลุกฮือบุกโรงพักแจ้งความ คณะกรรมการกู้ยืมเงินกันเอง! เบี้ยวไม่จ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นแก่ชาวบ้าน ก่อนแจ้งยุบกลุ่มออมทรัพย์เพื่อผลผลิตไปดื้อๆ ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 1.3 ล้านบาท

 


เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม2566 นางผ่องศรี นามพิชัย ผญบ. บ้านโนนธาตุ หมู่12 ต.แก พาตัวแทนชาวบ้านสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ผลผลิต เกือบ50คนหอบเอกสารสําคัญบุกโรงพัก สภ.รัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ พร้อมเข้าแจ้งความดําเนินคดีต่อ อดีต ผญบ.ประธานกลุ่มออมทรัพย์ผลผลิตและกรรมการ 6คนหลังกู้ยืมเงินไปจํานวน1,346,680บาทแล้วไม่ยอมคืนไม่ยอมจ่ายต้นไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ย นานเกือบ.3.ปีก่อนจะยุบกลุ่มออมทรัพย์ผลผลิตไปดื้อๆจนสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ผลผลิตทั้งหมด77คนโดยสมาชิกบางรายศูนย์เงินออมสูงสุดเกือบ2แสนบาท
โดยที่มาของเรื่องนี้คือ ชาวบ้านโนนธาตุ หมู่12 ต.แก อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อผลผลิตเริ่มก่อตั้งประมาณปี 2450 ซึ่งปัจจุบันได้มีปัญหาเกิดขึ้น คณะกรรมการไม่ได้มีการแจ้งผลการดำเนินงาน ไม่มีการปิดงบดุล และไม่มีการประชุมชี้แจงชาวบ้านให้เกิดความชัดเจน ปัญหานี้ปล่อยยึดเยื้อมาหลายปี ชาวบ้านบางส่วนที่รู้ตัวว่ากลุ่มออมทรัพย์จะมีปัญหาในอนาคตก็ถอนตัวออกจากกลุ่มได้ทันและได้เงินคืนมาบ้าง แต่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่ถอนตัวก็ได้รับผลกระทบอย่างมากในการถอนเงินคืน หลังจากนั้นจึงได้มีการเปลี่ยนผู้ใหญ่บ้านคนใหม่เป็นนางผ่องศรี นามพิชัย เพื่อมารับทราบและช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน ได้มีการสืบค้นข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับกลุ่มออมทรัพย์เพื่อผลผลิต พบว่ามีปัญหาหลายด้าน เช่น เงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปีไม่ได้รับตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ ไม่มีการชี้แจงให้ชัดเจน ชาวบ้านจึงไม่เชื่อในความโปร่งใสของคณะกรรมการปัจจุบัน หลังจากนั้นชาวบ้านที่เดือดร้อนได้นำเรื่องนี้เข้าไปปรึกษาหน่วยงานพัฒนาการอำเภอและชุมชนเข้าไปตรวจสอบข้อมูลจึงได้รู้ว่าเงินในกลุ่มออมทรัพย์เพื่อผลผลิตหายไปเนื่องจากประธานและคณะกรรมการกลุ่มได้ปล่อยให้มีการกู้ยืมกันเองคนละ 1-5 แสนบาท บางครั้งชาวบ้านที่เป็นสมาชิกก็ไม่สามารถกู้ยืมเงินในส่วนนี้มาใช้ได้
หลังจากนั้นได้มีการประชุมกันเรื่อยมาและได้ทำข้อตกลงกับคณะกรรมการ คณะกรรมการได้ยอมรับการเป็นหนี้ และจะแบ่งชำระเงินให้ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนภายใน2ปี ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการยังชำระเงินให้ชาวบ้านไม่ครบและบางคนยังไม่ได้รับเงิน! ซึ่งสมาชิกบางรายยังไม่ได้รับเงินที่ค้างอยู่เกือบ2แสนบาท ผู้เสียหายทั้งหมด 77 คนจึงรวมตัวมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ รวมมูลค่าความเสียหายแล้วกว่า 1.3 ล้านบาท
ปล่อยเสียงตัวแทนชาวบ้าน และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน…….

หลังจากต่อไปนี้กลุ่มสมาชิกทั้ง77รายจะยกระดับบุกยื่นหนังสื่อร้องทุกข์ต่อศูนย์ดํารงธรรม ที่ว่าการอําเภอรัตนบุรี และศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดสุรินทร์ต่อไป


………………………………………..

ภาพ/ข่าว/ประวิทย์ หัวดอน /บุญเรือง เกษรจันทร์-สุรินทร์/รายงาน/

Related posts