สินค้าเด่นจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้บุกขอนแก่น-โคราช ทั้งขายทั้งเจรจาธุรกิจ ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นเข้มแข็ง

สินค้าเด่นจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้บุกขอนแก่น-โคราช ทั้งขายทั้งเจรจาธุรกิจ ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นเข้มแข็ง

นางนฤมล แก้วมุกดากุล พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ได้นำผู้ประกอบการจำนวน 48 รายเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการและผู้สนใจ ที่ จ.ขอนแก่น และ จ.นครราชสีมา ภายใต้กิจกรรมเชื่อมโยงการค้าและเจรจาธุรกิจในพื้นที่และภูมิภาคอื่น ตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีนายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์ จ.นครราชสีมา กล่าวต้อนรับ โดยมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก ประกอวด้วย นายมนตรี จงวิเศษ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสว. และนายปราโมทย์ ตัณฑเศณีวัฒน์ ประธานบิซคลับ จ.นครราชสีมา รวมทั้งนักธุรกิจเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกันอย่างคับคลั่ง

นางนฤมล แก้วมุกดากุล พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า
กระทรวงพาณิชย์ ได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณประจำปี 2566 ให้ดําเนินกิจกรรมเชื่อมโยงการค้าและเจรจาธุรกิจในภูมิภาคอื่น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนภาคใต้ ส่งเสริมและสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ การค้า การลงทุน การจ้างงานและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นําไปสู่ความมั่นคงจากระดับฐานรากผ่านการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการแข่งขัน สามารถพึ่งพา ตนเองได้ ก่อให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการครองชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้น ส่งผลถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศชาติต่อไป สํานักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาสจึงได้กําหนดจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการค้าและเจรจาธุรกิจในภูมิภาคอื่น โดยได้คัดเลือกจังหวัดที่มีความพร้อม ความเหมาะสมด้านการตลาด และคาดหวังจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงคัดเลือกจัดกิจกรรมที่ขอนแก่น และ นครราชสีมา

“การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเป็นเป้าหมายที่สําคัญประการหนึ่งตามนโยบายรัฐบาล เพื่อมุ่งหวังการสร้าง ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในระดับชุมชนฐานราก จึง ได้นําสินค้าดี สินค้าเด่น สินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป มาเชื่อมโยงการค้า โดยเจ้าของสินค้าที่เป็นเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส ที่มีความตั้งใจเดินทางจากภาคใต้ชายแดนสู่พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนําสินค้าดี สินค้าเด่น สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และอาหารท้องถิ่นของจังหวัด ชายแดนภาคใต้ มามอบให้ชาวจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ได้รู้จัก ได้สัมผัสความพิเศษ ความเป็นอัตลักษณ์ ความตั้งใจ และคุณภาพสินค้าจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมอุดหนุนสินค้าที่พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่นํามาในวันนี้ รวมทั้งได้พูดคุยและเจรจาตกลงซื้อขายกับเกษตรกร ผู้ประกอบการเจ้าของสินค้าโดยตรง ในราคาที่เป็นธรรม”

พาณิชย์ จ.นราธิวาส กล่าวต่ออีกว่าสิ่งที่นำมาในวันนี้เป็นสินค้าดี สินค้าเด่น สินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป จากเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จํานวน 48 ราย อาทิ สินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าสิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ เครื่องสําอาง ของใช้ และอาหารท้องถิ่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเชื่อมโยงการค้าและเจรจาธุรกิจ อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจการค้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก การปฏิรูปภาคการเกษตรเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ให้กับเกษตรกร การสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับประชาชน และมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเชิงการค้าของคนในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองและก้าวทันต่อสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ให้เกิดการทํางาน การจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นรองรับนโยบาย เมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เกษตรกรมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ภายใต้ “กิจกรรมเชื่อมโยงการค้าและเจรจาธุรกิจในพื้นที่และภูมิภาคอื่น ภายใต้ ”โครงการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากชายแดนภาคใต้

การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเป็นการดําเนินการที่สําคัญในการพัฒนาและยกระดับประเทศให้เป็นประเทศรายได้สูงที่มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง เป็นการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับเศรษฐกิจไทยในอนาคต โดยการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการแข่งขันสามารถพึ่งพา ตนเองได้ ซึ่งจะช่วยก่อให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการครองชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้น และนําไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และความไม่เสมอภาค ตามเป้าหมายการพัฒนาของยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม เพื่อให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยการพัฒนาและส่งเสริมการสร้างมูลค่าสินค้าเกษตรเพื่อสร้างรายได้ ให้เกษตรกรและการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนในการพึ่งพาตนเองต่อไป”

Related posts