ชุมพร ร้อง สายไหมต้องรอด แก๊งค์วันรุ่นบุกทำลายทรัพย์สิน หวั่นความปลอดภัยครอบครัว
วันนี้(24 ก.พ. 66) เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก พ.ต.อ. สมพล บูรณเทศ ผกก สภ.ปากน้ำชุมพร ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศุภชัย สังข์ประคอง รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ชนะภัย บุญนาค สวป.ฯ ร.ต.อ.บรรจง ศักดิ์พิมล พงส./เวร ร.ต.ท.สมเกียรติ ไทยถาวร ร้อยเวร 20 ร.ต.ท.อำนาจ ทับห้าง สายตรวจ ต.ท่ายางฯ ส.ต.อ.อรรถพล ใยบัวทอง สายตรวจรถยนต์ ส.ต.ท.ชานนท์ ช่วยแก้วสายตรวจรถยนต์ ร.ต.ต.สุพจน์ กุดเป่ง สืบสวน และด.ต.สิทธา หงษ์ทอง สืบสวน ลงพื้นที่เป็นบ้านเช่าเลขที่ 114/14 ม.10 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านที่ครอบครัวของ นายราชัน จบสุบิน(หมี) อายุ 43 ปี และ คุณแม่เล็ก ครุฑธา อายุ 36 ปี บริเวณหน้าปากหลังดังกล่าวได้มีติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ดูแลความปลอดภัย
นายราชัน จบสุบิน(หมี) ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวกล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 66 ที่ผ่านมาเวลา 01.07 น. ได้มีแก๊งค์วัยรุ่นขับขี่รถมอร์เตอร์ไซค์นับสิบคัน ทั้งยิงปืนขู่ปาระเบิดเสียงและลงมาทำทุบตีทำลายรถมอร์เตอร์ไซค์ของตน ที่จอดไว้หน้าบ้านจนได้รับความเสียหาย จนคนในครอบครัวหวั่นใจในความปลอดภัย รุ่งเช้าตนได้ไปที่ สภ.ปากน้ำชุมพร เข้าแจ้งความกับ ตร. แล้ว ครอบครัวตนมีกันทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน นอนไม่หลับ หลังมีกลุ่มวัยรุ่นมาก่อเหตุแล้วทราบว่าเป็นกลุ่มคนในพื้นที่ ที่เป็นลูกของคนที่กว้างขวางในพื้นที่ ตนมาทราบในภายหลังว่า เพื่อนของลูกชายตนวัย 14 ปี อาจจะไปมีปัญหากันมาจนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนที่ตนร้องไปในเพจ “สายไหมต้องรอด” ก็เพราะกลัวครอบครัวของตนจะไม่ได้รับความปลอดภัยเท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียก น้อง…(เยาวชนขอสงวนนาม) อายุ 14 ปี กล่าวสั้นๆกับเจเาหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวว่า “คืนในวันเกิดเหตุตนไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็มาทราบข่าวที่หลังว่า คืนก่อนเกิดเหตุ ได้มีเพื่อนของกลุ่มตนที่สนิทไปมีเรื่องกับแก๊งค์ท้องถิ่นซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ จึงตามมาก่อเหตุกับตนที่บ้านในคืนดังกล่าว”
ทางด้าน พ.ต.ท.ศุภชัย สังข์ประคอง รอง ผกก.สอบสวน กล่าวว่า “ท่าน พ.ต.อ. สมพล บูรณเทศ ผกก สภ.ปากน้ำชุมพร ได้กำชับตนให้ลงมาที่บ้านของผู้เสียหาย ส่วนการสอบปากคำจากผู้เป็นพ่อทราบว่าเบื้องต้น น่าจะมีสาเหตุมาจาก เพื่อนของลูกชายที่สนิทซึ่งเป็นเยาวชน ซึ่งก็จะเชิญไปให้คำสอบสวนที่ สภ.ปากน้ำชุมพร โดยต้องให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็กฯ มาร่วมในกระบวนการสอบสวนด้วย ส่วนความเสียหายในขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และจะเรียกเยาวชนที่ก่อเหตุเข้าสอบสวนปากคำเพิ่มเติม โดยในเบื้องต้น ผู้เป็นพ่อต้องการให้เยี่ยวยาค่าซ่อมรถและชดเชยรายได้ ซึ่งคงจะต้องมีการพูดคุยกับผู้ปกครองของทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป เพราะเป็นเยาวชนทั้งคู่
ส่วนกรณีที่มีผู้ก่อเหตุที่ไม่ได้เป็นเยาวชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเร่งดำเนินการสอบสวนแล้วแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มต่อไป เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายจากนี้” พ.ต.ท.ศุภชัย สังข์ประคอง รอง ผกก.สอบสวน กล่าวปิดท้าย/
/ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากา/ชุมพร