สระแก้ว I กัมพูชาเริ่มรื้อสะพานเชื่อมอาคารบ่อนคาสิโนแกรนด์ไดมอนด์แล้ว
*****ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้บ่อนกาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ซิตี้เ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 28 ธันวาคม 2565 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00-24.00 น. รอยต่อระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.-29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด ทาง พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ,พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผบ.ชค.ทพ.13 และ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ในฐานะชุดกองอำนวยการร่วมฝั่งประเทศไทย ได้รับการประสานข้อมูลว่า ทางการกัมพูชาจะเริ่มทยอยรื้อถอนซากอาคารที่ถูกไฟไหม้โดยเร็ว
*****นายงอ เมงจรวญ รองผู้ว่าฯจังหวัดบอนเตียเมียนเจ็ย นำกำลังเข้าช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินตู้เซฟจำนวน 7 ตู้ จากคาสิโนที่ถูกไฟไหม้และจะปฏิบัติการค้นหาตามที่เจ้าของร้องขอความร่วมมือไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นซึ่งไม่รู้ว่าอีกนานสักกี่วัน…ทำให้การเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวกเพราะเขาห้ามผ่านหน้าบ่อนต้องอ้อมไปด้านหลังที่มีการจราจรแออัด ไปตามแนวคลองแล้วเลี้ยวขวาตรงเซเว่น เฉียดตึก 18 ชั้น ผ่านย่านต้นพุทรา แล้วเลี้ยวขวาออกจากซอยเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 5 (ขอขอบคุณภาพจากอย่าให้เรียกว่าสายเปย์ให้เรียกว่าคนทุ่มเทกับความรัก)
******โดยวันนี้เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้มีการติดตั้งกำแพงปิดกั้นเส้นไปเข้าไปยังบริเวณอาคารที่ถูกเพลิงไหม้รอบ และเริ่มทำการรื้อถอนสะพานเชื่อมอาคารบ่อนคาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ทั้งสองจุดโดยเร็วเพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางไปยังวงเวียน ตม.กัมพูชา เนื่องจากปัจจุบันรถยนต์ขนส่งทุกชนิดต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางสะพานหนองเอียน-สตรึงบท เป็นการชั่วคราว หากดำเนินการแล้วเสร็จอาจมีการพิจารณากลับมาใช้เส้นทางด่านคลองลึกเช่นเดิม
*****ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้ข้อมูลว่า ทางกัมพูชาได้ขอให้ทางจังหวัดสระแก้ว และฝั่งไทยช่วยเหลือคือ ขอทีมวิศวกรจากฝั่งไทย ไปช่วยตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ว่าแข็งแรง หรือต้องรื้อถอน ซึ่งทางฝั่งกัมพูชา จะทำหนังสือขอความร่วมมือแจ้งกลับมา จากนั้นจังหวัดสระแก้วจะส่งโยธาธิการจังหวัดสระแก้ว เข้าไปช่วยประเมิน ว่าความมั่นคงแข็งแรงหลังจากที่ถูกไฟไหม้ตัวอาคารจะเป็นอย่างไร และจะเกิดอันตรายต่อคนในพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางจังหวัดสระแก้ว เคยประชุมระดับจังหวัดชายแดน ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กับผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และทำความตกลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาโดยมีข้อสรุปร่วมกัน 9 ข้อ 2 ใน 9 ข้อ คือ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะให้การช่วยเหลือในด้านการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ชายแดน และการอนุญาตให้ยานพาหนะประเภทรถพยาบาลหรือรถสำหรับส่งต่อผู้ป่วยของทั้งสองประเทศ จึงทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุดังกล่าว สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
***ภาพ/ไพโรจน์ /นักข่าวกัมพูชา /ข่าว สมศักดิ์ ปัญญาสัย /บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน