ยุทธพล ”ปลุกชาวไทย” เห็นคุณค่า การอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า ในกิจกรรมงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ปี 2565

ยุทธพล ”ปลุกชาวไทย” เห็นคุณค่า การอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า ในกิจกรรมงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ปี 2565

 

25 ธันวาคม 2565 ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี 2565 ณ วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ภายในการจัดงาน “มหกรรม ทส. พบประชาชน” ครั้งที่ 4 : ทรัพยากรสร้างมูลค่า พัฒนาคุณภาพชีวิต ปลุกจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยมีนางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า, นางภูสิน เกตานนท์ ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ, นางสาวสมหญิง ทัฬหิกรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า, นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา, นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน ผู้อำนวยการส่วนจัดการสุขภาพสัตว์ป่า, หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง, เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.), เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.), เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.), ผู้แทนภาครัฐ, ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมในกิจกรรม

 

ดร.ยุทธพล กล่าวว่า การที่เราจะดูว่า ประเทศไทยของเรานั้น มีทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์หรือไม่อย่างไร นั้น สัตว์ป่าเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่จะสามารถบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรในแต่ละพื้นที่ ทั้งชนิด จำนวน และความหลากหลายของชนิดพันธุ์ การอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า จึงช่วยค้ำจุนให้ทรัพยากรป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ การบุกรุกพื้นที่ป่าและทำให้ป่าเสื่อมโทรมย่อมส่งผลให้ถิ่นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์ป่าถูกทำลาย อีกทั้งยังมีการล่าสัตว์ป่าเพื่อนำไปบริโภคและค้าขายชิ้นส่วนของสัตว์ป่าที่ส่งผลให้สัตว์ป่าบางชนิดสูญพันธุ์ และอีกหลายชนิดตกอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์ แม้ว่าประเทศไทยมีพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 โดยมีการปรับปรุงใน พ.ศ. 2535 และ พ.ศ. 2562 ซึ่งเปิดโอกาสให้เอกชนสามารถเพาะพันธุ์สัตว์ป่าบางประเภทได้ รวมถึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ในธรรมชาติ โดยเฉพาะชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์หรือถูกคุกคาม โดยการสร้างเครือข่ายทั่วไปในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศทั้งสัตว์ป่าและพืชป่าที่มีชีวิต ซาก และผลิตภัณฑ์

 

ดร.ยุทธพล กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันสัตว์ป่าบางชนิดยังคงถูกคุกคาม ไล่ล่า และลดจำนวนลงเรื่อย ๆ จนต้องมีการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าสงวน ซึ่งประเทศไทยมีสัตว์ป่าสงวนตามกฎหมาย รวม 20 ชนิด ได้แก่ เก้งหม้อ เลียงผา แมวลายหินอ่อน แรดชวา กระซู่ กูปรี กวางผา ควายป่า นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร นกแต้วแล้วท้องดำ นกกระเรียน พะยูน ละองละมั่ง สมเสร็จ สมัน เต่ามะเฟือง วาฬโอมูระ วาฬบรูด้า ปลาฉลามวาฬ และนกชนหิน ซึ่งเป็นชนิดล่าสุดที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ไปเมื่อเดือนมีนาคม 2564 และสุดท้ายนี้ ในนามของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ให้เห็นคุณค่าและความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป ลำพังเพียงเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ อาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับองค์กรอื่น ภาคเอกชน และประชาชน ‘หยุดล่า หยุดฆ่า หยุดค้า หยุดกิน และหยุดเลี้ยงสัตว์ป่า’ เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ มีความอุดมสมบูรณ์สืบต่อไป

 

 

Related posts