ตร.จับสองพี่น้องก่อเหตุรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าแล้ว อ้างแค้นมานานเคยตัดไฟไม่แจ้งล่วงหน้า

วันนี้ (12 ต.ค. 65) ร.ต.อ อำนาจ นิ่มนวล รอง สว.(สอบสวน) สภ.คูบางหลวง เจ้าของคดี ได้เดินทางไปสอบปากคำพยานเพิ่มเติมพร้อมกับไปดูอาการของผู้เสียหายที่ รพ.ปทุมธานี โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ยังได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลต่างๆนำมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน เจ้าชองคดี เพื่อไปยื่นขออนุมัติหมายศาลจังหวัดปทุมธานี ในการออกหมายค้นและหมายจับ บุคคลที่ก่อเหตุตามคลิปวีดีโอ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว ส่วนอาการผู้บาดเจ็บขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว โดยแพทย์ได้ถอดเครื่องหายใจและรอดูอาการอย่างใกล้ชิด

ขณะที่เดียวกันที่ห้องสืบสวน พ.ต.อ วรพจน์ ชูเชิด ผกก.สภ.คูบางหลวง เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน โดยมี พ.ต.ท.พีรพัสส์ ชูช่วย รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ต มาโนช สิงหบาล สว.สส. เพื่อสอบถามความคืบหน้าและให้เร่งรัดติดตามตัวผู้ก่อเหตมาดำเนินคดีได้ให้

พ.ต.อ วรพจน์ ชูเชิด ผกก.ฯ กล่าวเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวน ได้ลงไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุและให้ติดตามเร่งรัดจับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่เนื่องจากต้องมีพยานหลักฐานให้แน่ชัดซึ่งขณะนี้ได้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วกำลังเตรียมหลักฐานต่างๆยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุม ส่วนอาการบาดเจ็บนั้นทราบจากแพทย์ว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว และทางพนักงานตสอบสวนก็ได้ไปสอบปากคำพร้อมให้ผู้เสียหายชี้ภาพถ่ายผู้ก่อเหตุ เพื่อยืนยันอีกครั้งในการดำเนินขอหมายศาลต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกันนี้ (12 ต.ค  65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูบางหลวง ได้นำหมายค้นของศาล จ.ปทุมธานี เพื่อไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 6/2 ม.4 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของชายฉกรรจ์ 2 คนตามภาพคลิปวีดีโอ ที่ได้ร่วมกันก่อเหตุรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ตามที่เป็นข่าว

ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ฯ นำกำลังเดินทางไปตามเป้าหมาย ก็ได้รับแจ้งจากสายว่า 1 ในชายฉกรรจ์ที่รุมทำร้ายนั้น ได้ขับรถ จยย.ออกมาพร้อมกับญาติคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังติดตามไป และได้พบกับนายอดุลย์ อาดำ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามภาพคลิปวีดีโอ จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก พร้อมกันนี้ก็ได้นำหมายศาล ฯ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นโดยมีนายอานนท์ อาดำ อายุ 34 ปี อยู่ในบ้านพร้อมด้วยกับผู้เป็นแม่และญาติอีก 2 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายนอกจากกัญชาจำนวนหนึ่ง แต่ได้ให้นายอานนท์ ฯ ดูภาพตามคลิปพร้อมสอบถามว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ที่ร่วมกันทำร้ายนายจิรศักดิ์ อาจสำอางค์ อายุ 43 ปี โดยนายอานนท์ ฯ ตอบว่าใช่ แต่ไม่ยอมที่จะเดินทางมาให้ปากคำที่โรงพัก เจ้าหน้าที่จึงได้ถอนกำลังกลับพร้อมได้แจ้งกับทางญาติว่าจะมาอีกครั้งพร้อมหมายจับและจะไม่มีการพูดคุยเจรจาใดๆทั้งสิ้น

 

ต่อมาขณะที่ พ.ต.อ วรพจน์ ชูเชิด ผกก.ฯ กำลังสอบปากคำนายอดุลย์ ฯ ปรากฏว่าได้มีญาติได้นำตัวนายอานนท์ ฯ เดินทางมาที่โรงพักจึงได้ทำการสอบปากคำ

เบื้องต้นทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุตามคลิปวีดีโอจริง โดยนายอดุลย์ ฯ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนและญาติพี่น้องนั้นมีความคับแค้นใจคู่กรณีมานาน เนื่องจากเมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา คู่กรณีได้มาทำการตัดไฟที่บ้านตนซึ่งขณะนั้นมีแม่ตนที่แก่ชราและสายตามองไม่ค่อยเห็นอยู่บ้าน พอตนรู้ว่าถูกตัดไปโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้พี่น้องตนเกิดมาไม่พอใจจึงรอจังหวะที่จะสอบถาม จนกระทั่งในวันเกิดเหตุคู่กรณีขับรถ จยย.ผ่านมา จึงเรียกให้จอดขณะยังไม่ทันเจรจาพูดคุย พี่ชายตนคือนายอดุลย์ ฯ ได้เดินตามออกมาทันใดนั้นคู่กรณีเห็นพี่ชายตนจึงจะขับรถหลบหนี ตนจึงได้ดึงเอาไว้แล้วมีการชกต่อยกัน โดยพี่ชายตนได้เข้ามาช่วบและชกไป 1 ครั้งจากนั้นก็มีญาติตนมาห้ามไว้

ส่วนรถ จยย.ของคู่กรณีนั้นนายอานนท์ ฯ ยอมรับว่าขณะที่น้องชายได้ต่อยกับคู่กรณีที่ตกไปในคูน้ำข้างทาง ตนเห็นว่ารถ จยย.นั้นเครื่องยังไม่ดับ จึงได้บิดคันเร่งทำให้รถก็พุ่งตกลงไปในคลองบางโพธิ์

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่”ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์”พร้อมกับนำตัวทั้งคู่ไปตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.ลาดหลุมแก้ว โดยพบว่ามีสารเสพติด(ยาบ้า) จึงได้แจ้งข้อหาเสพสารเสพติดให้โทษ(ประเภท1) ก่อนควบคุมตัวเข้าห้องขังทันที

Related posts