สองคนร้ายดักถีบรถเหยื่อสาวขณะขับ จยย.กลับบ้าน ก่อนลงมาทำร้ายชกกระทืบจนหัวแตกหน้าฟกช้ำ

สองคนร้ายดักถีบรถเหยื่อสาวขณะขับ จยย.กลับบ้าน ก่อนลงมาทำร้ายชกกระทืบจนหัวแตกหน้าฟกช้ำ โชคดีพลเมืองดีผ่านมาช่วย ตร.เร่งไล่ล่า พบเส้นทางดังกล่าวมีการก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

 

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (22 ก.ย. 65) พ.ต.ท ชัยรัตน์ แย้มวงษ์ รอง ผกก.สส. สภ.ปากคลองรังสิต พ.ต.ท กวี ช่วยสร้าง สว.สอบสวน พ.ต.ต พงศ์ปณต สีหานาม สวป.พร้อมกำลังชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ในจุดเกิดเหตุอีกครั้งโดยมี น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมุติ) ผู้เสียหายมาชี้จุดเกิดเหตุและให้รายละอียดอีกครั้งหลังจากที่กลับมาหนีไปพักบ้านญาติเพราะกลัวคนร้ายจะติดตามมาทำร้าย ซึ่งหลังจากตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้วจึงได้เดินทางกลับมาร่วมประชุมเพื่อสรุปหาข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆในการติดตามล่าตัวคนร้ายทั้งสอง

 

พ.ต.ท ชัยรัตน์ แย้มวงษ์ รอง ผกก.สส.ฯ กล่าวว่าสืบเนื่องมาจาก เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 21 ก.ย. 65 พ.ต.ท กวี ช่วยสร้าง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ครั้งแรกได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนถูกทำร้ายคาดว่าน่าจะเป็นสามีภรรยากัน จึงประสานสายตรวจไปตรวจสอบโดยเหตุบริเวณซอยเจ้าพ่อสมบุญ ม.6 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อสายตรวจไปถึงพบ น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ยืนอยู่ในอาการตกใจและหวาดกลัว โดยมีเลือดไหลที่ศีรษะ เมื่อตรวจสอบพบว่ามีบาดแผลที่หน้าผากและท้ายทอย จึงประสานกู้ภัยฯมารับตัวคนเจ็บส่ง รพ.ปทุมธานี โดยมีพลเมืองดีและชาวบ้านยืนอยู่ในที่เกิดเหตุหลายคน

ซึ่งหลังจาก น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมุติ) ผู้เสียหายกลับจากโรงพยาบาลแล้วจึงเดินทางมาแจ้งความและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นแพทย์ได้ทำการเย็บบาดแผลที่ศีรษะทั้งหมด 5 เข็ม และที่ใบหน้ามีรอยปูดบวมฟกเบ้าตาแดงช้ำ

 

โดย น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมุติ) ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่าก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถ จยย.กลับมาจากทำธุระและกำลังจะกลับบ้านพักที่บริเวณปากทางหมู่บ้านเมืองเอก และเมื่อขับรถออกมาจากจุดที่ตนไปทำธุระไม่ถึง 500 เมตร จู่ๆก็มีรถ จยย. ฮอนด้า รุ่นPCX สีเทา ไม่ทราบทะเบียน เป็นชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อคทั้งคู่ ขับรถมาประกบรถตน จากนั้นคนซ้อนท้ายก็ยกเท้าทำท่าจะถีบรถตน ตนจึงแตะเบรคทำให้รถเสียหลักและล้มลง จากนั้นคนร้ายได้จอดรถ และคนซ้อนท้ายได้ลงมาชกต่อยที่ใบหน้าตนหลายครั้ง จนตนร่วงลงไปกองกับพื้นพร้อมกันนี้คนร้ายยังได้ใช้เท้าทั้งเตะและกระทืบที่หัวตนจนแทบสลบ จังหวะนั้นได้มีพลเมืองดีคนหนึ่งขับรถ จยย.ผ่านมาพร้อมกับได้จอดแล้วบอกกับคนร้ายว่า”อย่าทำผู้หญิงเลยครับ”แต่คนร้ายได้หันไปมองหน้าพลเมืองดีพร้อมกับบอกว่า”ไม่ต้องมายุ่งนี่มันเรื่องของผัวเมีย” เมื่อตนได้ยินเช่นนั้น ตนจึงร้องบอกขอความช่วยเหลือและบอกว่า”ตนไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ตนถูกทำร้าย ช่วยตนด้วย” ทำให้คนร้ายทั้งสองได้ขับรถออกไปทันที และขณะที่พลเมืองดีเข้ามาดูอาการตน คนร้ายได้ขับย้อนมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับชี้หน้าพลเมืองดีว่า”ทีหลังไม่ต้องเข้ามายุ่ง” และคนร้ายก็ขับรถหนีไป ต่อมาก็มีชาวบ้านแถวนั้นผ่านไป พร้อมช่วบแจ้งตำรวจและกู้ภัยฯ ตนต้องขอบคุณพลเมืองดีที่ผ่านมาช่วยตนไว้ทัน ทำให้ตนรอดชีวิตจากการถูกทำร้าย ซึ่งไม่รู้ว่าคนร้ายนั้นจะหวังทรัพย์สินหรือหวังอย่างอื่นซึ่งตนไม่ได้มีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะกับใครเลย และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนกลัวมากหลังทราบว่าบริเวณแถวนี้มีเหตุคนร้ายตระเวณทำร้ายจี้ปล้นชิงทรัพย์บ่อยมาก จนชาวบ้านหวดผวา จึงอยากฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีกต่อไป

 

และหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต ได้สั่งการให้ พ.ต.ท ชัยรัตน์ แย้มวงษ์ รอง ผกก สืบสวน เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายโดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกไล่เช็คตามกล้องวงจรปิดตามบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกล้องของชาวบ้าน เนื่องจากในพื้นที่มีเหตุเกิดขึ้นบ่อยแต่เคยขอทำงบเกี่ยวกับเรื่องติดตั้งกล้องวงจรปิดไปทางหน่วยงานท้องถิ่นแล้วหลายครั้งก็ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด

 

สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน

 

 

Related posts